"ศรีสุวรรณ" ร้องสอบ "ธนาธร" หมิ่นศาลฯหรือไม่

การเมือง
22 พ.ย. 62
17:48
662
Logo Thai PBS
"ศรีสุวรรณ" ร้องสอบ "ธนาธร" หมิ่นศาลฯหรือไม่
เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยร้องศาลรัฐธรรมนูญ สอบคำสัมภาษณ์​ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ใช้ถอยคำเสียดสี เข้าข่ายหมิ่นศาล พร้อมยื่น กกต.สอบการเบิกพยาน 10 ปากในศาลรัฐธรรมนูญเข้าข่ายเบิกความเท็จหรือไม่

วันนี้ (22 พ.ย.2562) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้นำคำร้องพร้อมด้วยพยานหลักฐานยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ไต่สวนตรวจสอบและวินิจฉัย การให้สัมภาษณ์ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคคใหม่ ที่ให้สัมภาษณ์หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายธนาธร พ้นสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าเข้าข่ายการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่

 
โดยอ้างอิงว่า เนื่องจากมีถ้อยคำลักษณะตำหนิศาลว่า อาทิ  “...ผู้พิพากษาศาลทุกท่าน ไม่เคยเป็นธุรกิจ-นักลงทุน จะใช้คำว่าโครงการไหนน่าลงทุนหรือไม่ คงไม่ถูกต้องนัก...” และคำว่า “….เหตุผลที่ศาลยกขึ้นมาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของผมสิ้นสุดลง ล้วนเป็นข้อสันนิษฐานไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์มาหักล้างเอกสารหลักฐานที่เรานำเสนอ... ศาลให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่าข้อเท็จจริง ทั้งที่มีข้อเท็จจริงปรากฏเป็นเอกสารหลายข้อ แต่ศาลกลับให้น้ำหนักกับข้อสันนิษฐานมากกว่า...”

สำหรับถ้อยคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว อาจถือได้ว่าเป็นการก้าวล่วงการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ อันอาจขัดต่อ ม.38 ม.39 ของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญปี 2561 ประกอบ ข้อ 10 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญปี 2562 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลหรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลโดยไม่สุจริตหรือใช้ถ้อยคำหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย หากฝ่าฝืนถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญปี2561 มาตรา 39 วรรคหนึ่ง (3)

นอกจากนี้ นายศรีสุวรรณ ยังยื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้เร่งดำเนินการสืบสวนไต่สวน โดยนำผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลง ไปฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเอาผิดตามมาตรา 151 ของพระราชบัญญัตติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะขาดคุณสมบัติ แต่ไปลงสมัคร ต้องโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ได้ขอให้ กกต.สืบสวนว่าคำเบิกความของพยานทั้ง 10 ปากที่นายธนาธรนำมาเบิกความต่อศาลรัฐธรรมนูญการเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลหรือไม่ โดยรวมถึงนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาและนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรือง ภรรยา ของนายธนาธรด้วย ซึ่งถือว่ามีความผิดตามปะมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง