กรมป่าไม้พร้อมเอาผิด รอกฤษฎีกาชี้ขาด "ปารีณา" รุกที่ ส.ป.ก.

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ. ป.ป.ช. เกี่ยวกับการดำเนินคดีที่ดิน 682 ไร่ ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

นายอรรถพล ให้สัมภาษณ์ก่อนการชี้แจงว่า กรมป่าไม้ส่งเรื่องสอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกาทุกประเด็น เนื่องจากกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก. มีความเห็นต่างกัน ว่าจะสามารถดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณา ฐานรุกป่า 682 ไร่ ได้หรือไม่ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นป่าก่อนประกาศเป็นที่ดิน ส.ป.ก. โดยกรมป่าไม้ขอสงวนความเห็นว่ามีจุดยืนอย่างไร แต่เมื่อมีความชัดเจนกรมป่าไม้พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย

ขณะที่การชี้แจงต่อที่ประชุม นายอรรถพล ชี้แจงว่า กรมป่าไม้ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งจะเห็นว่าระยะเวลาดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอน โดยใช้ระยะเวลาเพียง 9 วัน สามารถดำเนินการตามกระบวนการ โดยประเด็นในพื้นที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือที่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวน 41 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา และพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 54 อีก 4 ไร่ 3 งาน 81 ตารางวา รวมเป็นพื้นที่ 46 ไร่ 1 งาน 40 ตารางวา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ดำเนินคดีแล้ว ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่เหลือและใช้ทำฟาร์มไก่ มีการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ส.ป.ก. โดยเทียบจากแผนที่ของ ส.ป.ก.มาตรวจสอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าจะดำเนินคดีได้หรือไม่

ระหว่างการชี้แจงของอธิบดีกรมป่าไม้ นางสาวปารีณา ในฐานะ กมธ.ฯ และผู้ถูกร้อง ได้เข้ามาร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ยังเสนอให้คณะกรรมาธิการยุติเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หรือกรณีที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อไม่ให้เกิดภาระแก่คณะกรรมาธิการมากเกินไป หากเรื่องใดที่ยังไม่เคยร้องต่อ ป.ป.ช. ก็ให้คณะกรรมาธิการเข้าไปสอบหาข้อเท็จจริงได้ทันที เพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชน เพราะหากไปทำงานซ้ำซ้อนจะไม่เกิดประโยชน์

รีสอร์ท "ม่อนแจ่ม" หากผิดกติกา-รุกป่าเพิ่ม ต้องถูกรื้อ

นอกจากนี้ นายอรรถพล ยังให้สัมภาษณ์กรณีมีผู้ประกอบการรีสอร์ทในม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ เพิ่มขึ้น โดยระบุว่า เคยคุยกับชาวไทยภูชี้แจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายกับป่า แต่ชาวไทยภูเขาอยากเปลี่ยนอาชีพมาสร้างรีสอร์ท กางเต็นท์ ทำสิ่งปลูกสร้าง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว กรมป่าไม้จึงจัดระเบียบและตั้งกติการ่วมกันไม่ให้ขยายพื้นที่ทำรีสอร์ท และกำเขตพื้นที่ให้ทำรีสอร์ทเท่าที่ดำเนินการไปแล้ว

ส่วนกลุ่มนายทุนและกลุ่มผู้ขาดคุณสมบัติจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ล่าสุดมีการดำเนินคดีไปแล้ว 3 คน และเตรียมขยายผลเพิ่มเติม ขณะที่ผู้ใช้ประโยชน์คนใดใช้พื้นที่ไม่เหมาะสม เสี่ยงอันตราย หรือกระทบระบบนิเวศ จะขอความร่วมมือให้รื้ออก ไม่เช่นนั้นจะซ้ำรอยกรณีภูทับเบิก เบื้องต้นได้ตั้งกองอำนวยการฯ ในพื้นที่ และมี กอ.รมน. มาร่วมปฏิบัติงานแล้ว