หลักเกณฑ์คุมเข้ม "สัก-เจาะร่างกาย" อีก 90 วันมีผลบังคับใช้

สังคม
4 ม.ค. 63
08:11
4,089
Logo Thai PBS
หลักเกณฑ์คุมเข้ม "สัก-เจาะร่างกาย" อีก 90 วันมีผลบังคับใช้
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายแล้ว โดยกำหนด 5 หลักเกณฑ์คุมเข้มร้าน-ผู้ปฏิบัติงาน-การจัดการของเสียต้องครบ รวมทั้งอุปกรณ์ สีต้องมีมาตรฐาน

เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย พ.ศ.2562 

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมการประกอบกิจการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการประกอบกิจการที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การติดเชื้อ การแพ้สีหรือสารเคมี เป็นต้น

ประกอบกับมูลฝอยที่เกิดจากการประกอบกิจการ เช่น เข็มสัก วัสดุปนเปื้อนเลือด หรือสารคัดหลั่ง หากไม่ได้รับการจัดการที่ถูกสุขลักษณะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานการประกอบกิจการนี้ด้วย

สำหรับประกาศฉบับนี้มีรายละเอียดสำคัญครอบคลุม 5 หลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมเกี่ยวกับสุขลักษณะของสถานประกอบกิจการ รวมทั้งหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องใช้ เครื่องมือ อุปกรณ์ สีและเครื่องประดับก่อนการปฏิบัติงาน

5 หลักเกณฑ์คุมร้าน-คนปฏิบัติงาน-การจัดการของเสีย

นอกจากนี้ยังกำหนดหลักเกณฑ์ มาตรการในการปฏิบัติงานและควบคุมความปลอดภัยในการทำงานดังต่อไปนี้ เช่น บริเวณที่สักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย ต้องมีค่าความเข้มแสงสว่างไม่ น้อยกว่า 800 ลักซ์ การเตรียมสีต้องสะอาด ไม่ใช้สีที่หมดอายุ สีที่เปิดใช้งานแล้วต้องปิดฝาให้สนิทสี ที่เหลือจากการสักต่อผู้รับบริการ 1 คน รวมทั้งภาชนะรองรับสีที่เหลือจากการสัก เช่น ถ้วยพลาสติกจานรองสี ให้ทิ้งทันที ห้ามใช้ซ้ำ

รวมทั้งหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมเกี่ยวกับการจัดการมูลฝอย และหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุมเกี่ยวกับสุขอนามัยและข้อปฏิบัติในการประกอบกิจการ ผู้ดำเนินกิจการ ต้องมีคู่มือการปฏิบัติงานและเอกสารแสดงขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัยโดยเฉพาะในกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุเข็มทิ่มตา ของมีคมบาด หรือสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่ง 

ทั้งนี้ ผู้ดำเนินกิจการต้องแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการทำงาน และแจกคู่มือปฏิบัติงานพร้อมทั้งชี้แจงให้ผู้ปฏิบัติงานทราบ แจ้งเตือนสำหรับผู้มารับบริการที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูงโรคโลหิตไหลไม่หยุด โรคลมชัก โรคเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่ควรใช้บริการสักผิวหนัง

โดยประกาศนี้ไม่ใช้บังคับกับการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เพื่อความเชื่อทางพิธีกรรม หรือศาสนา และราชการส่วนท้องถิ่น ควรให้ความรู้แก่ผู้ดำเนินกิจการและผู้ปฏิบัติงาน เกี่ยวกับ การป้องกันการติดเชื้อ หรืออันตรายจากการสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย รวมทั้ง การจัดการมูลฝอยที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการ

ทั้งนี้ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

แพทย์เตือน "สักเถื่อน" เสี่ยงติด HIV มากกว่าร่วมเพศ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง