เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2563 ร่างของ พล.ต.คาเซม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกาในอิรัก ถูกส่งกลับมาประกอบพิธีศพที่บ้านเกิดในเมืองมัชฮัด ซึ่งเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ในอิหร่าน
โดยชาวอิหร่านหลายแสนคนพากันหลั่งไหลมาไว้อาลัยให้กับ พล.ต.โซเลมานี กันอย่างแน่นขนัด ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธแค้นต่อสหรัฐอเมริกา
ปฏิบัติการของสหรัฐอเมริกาในการปลิดชีพ พล.ต.โซเลมานี ซึ่งเป็นนายทหารที่ทรงอิทธิพลที่สุดของอิหร่านและมีอำนาจอันดับ 2 รองจากอยาตอลลาห์ อาลี คาเมนาอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ส่งผลให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียด ท่ามกลางความวิตกของนานาชาติว่าอาจลุกลามบานปลายกลายเป็นสงคราม
ล่าสุด มีรายงานว่าอิหร่านประกาศจะไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับใดๆ ในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับชาติมหาอำนาจตะวันตกอีกต่อไป รวมทั้งการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม การวิจัยและการพัฒนานิวเคลียร์
ด้านรัฐสภาอิหร่านได้จัดการประชุมเพื่อหารือเรื่องการเสียชีวิตของ พล.ต.โซเลมานี โดยประธานรัฐสภาระบุว่าการสังหาร พล.ต.โซเลมานี เป็นการก่อการร้ายโดยฝีมือของกองทัพ พร้อมเตือนว่าสหรัฐอเมริกาควรถอนกำลังทหารออกจากภูมิภาคนี้ ก่อนที่อะไรบางอย่างจะเกิดขึ้น และกล่าวถึง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่าเขาได้ก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรง ซึ่งจะทำให้ผลที่ตามมาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
อีกทั้งยังมีรายงานว่า รัฐสภาอิรักได้ผ่านมติเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการให้กองกำลังนานาชาติภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา เข้ามาประจำการในอิรัก หลังประชาชนลุกฮือประท้วงขับไล่ทหารสหรัฐอเมริกาออกจากประเทศ เพื่อตอบโต้การสังหาร พล.ต.โซเลมานี