จวก "ดอน" ชักศึกเข้าบ้าน ตั้งคำถามค่าทำพาสปอร์ตอยู่ไหน

วันนี้ (9 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้เป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่าย ปี 2563 เป็นวันที่ 2 ซึ่งจะมีการพิจารณาอีก 46 มาตรา จากทั้งหมด 55 มาตรา โดยเริ่มอภิปรายมาตรา 10 การพิจารณาร่างงบฯ 63 ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ตั้งไว้ 5,134,473,000 ล้านบาท ขอปรับลดเหลือ 194,000,000 ล้านบาท

เริ่มอภิปรายจี้ตัดงบกระทรวงตปท.กว่า 200 ล้าน

โดยเริ่มเมื่อเวลา 09.55 น. นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายเป็นคนแรก เสนอขอปรับลดงบฯ ของกระทรวงการต่างประเทศ 5 % หรือ 256 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มการจัดซื้อครุภัณฑ์ เช่น จัดซื้อรถประจำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการ

นอกจากนี้นายสมคิดยังตั้งประเด็นเรื่องที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับสัญญาณกรณีสหรัฐฯ จะเข้าถล่มอิรัก แต่ตอนบ่ายต้องออกมาแก้ข่าวว่าคลาดเคลื่อน ถือว่าทำให้ประเทศชาติเสียหาย และเอาประเทศไปเสี่ยง จึงต้องปรับงบฯ ที่ใช้ทางการทูตลงไป 5 %

จากนั้นเวลา 10.00 น. นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายว่า กระทรวงการต่างประเทศ มีความสำคัญในการประสานกับต่างประเทศ โดยขอสงวนคำแปรญัตติลดงบฯ เพียงแค่ 1 % แตกต่างกับ กมธ.ที่เสนอปรับลดงบฯ 4 %

นายจักรพันธ์ระบุว่า ห่วงว่าถ้าปรับลดงบฯ ลงไปเยอะ หากสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดในตะวันออกกลาง จะทำให้มีเครื่องมือและบุคลากรเพียงพอที่จะรักษาความมั่นคงของประเทศในสถานการณ์แบบนี้ได้ดีพอหรือไม่

หวั่นตัดงบกระทบชายแดนเพื่อนบ้าน

ส่วนโครงการที่ถูกปรับลดงบฯ ด้านความมั่นคงในชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน มีการปรับลดไป 1 ล้านบาท แม้จะเป็นตัวเลขที่ดูไม่เยอะ แต่อาจกระทบการเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น การสร้างด่านถาวรด่านสิงขร ไปยังเมียนมา ที่มีการวางโครงสร้างพื้นฐานและถนนรองรับที่ลงทุนนับพันล้านบาท

ตั้งคำถาม เงินค่าทำพาสปอร์ตหายไปไหน

เวลา 10.12 น. นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ภาพรวมสถานการณ์โลกขณะนี้ที่หลายประเทศต้องการเป็นเบอร์ 1 บทบาทของไทย ที่จะนำประเทศให้อยู่รอดและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติเป็นเรื่องสำคัญ แม้แต่ในอาเซียนยังเป็นเรื่องยาก ต้องมีการเจรจาตกลงกัน

นอกจากนี้นายพิสิฐยังตั้งคำถามถึงกระทรวงการต่างประเทศ ถึงเรื่องการออกพาสปอร์ต ว่า การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้เอกชนมาดำเนินการ มีการควบคุมปกป้องไม่ให้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ และตกไปอยู่ในกลุ่มมิจฉาชีพหรือไม่ รวมทั้งรายได้จากส่วนนี้ในส่วนเงินนอกงบฯ แต่ไม่เห็นมีรายได้จากการทำพาสปอร์ต

นายพิสิฐกล่าวด้วยว่า การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มประชาคมยุโรป ซึ่งภายในเดือน ม.ค.นี้ ผู้นำอังกฤษจะประกาศแยกตัวจากอียู เป็นโอกาสที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยต้องเร่งสร้างความสัมพันธ์กับอังกฤษ เพื่อให้นำเข้าสินค้าไทย จากเดิมเคยมีกำแพงภาษีจากอียู

จวก “ดอน” ดึงไทยโยงปัญหาอิหร่าน-สหรัฐฯ

ต่อมาเวลา 10.25 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ติง รมว.ต่างประเทศ กรณีให้สัมภาษณ์เรื่องอิหร่าน-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ประเทศไทยจะรับรู้ข้อมูลปฏิบัติการแบบนี้

การที่ รมว.ต่างประเทศ ดึงไทยเข้าไปมีส่วนร่วมโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยนั้น มีความเห็นว่านอกจากปรับลดงบฯ ลง 10 % แล้ว ต้องปรับ รมว.ต่างประเทศ ออกจากคณะรัฐมนตรีด้วย

อยากเห็นทูตไทยดูแลแม่น้ำโขง

เวลา 10.35 น. นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ต้องการให้ทูตไทยมีบทบาทในเวทีการเจรจาด้านการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะปัญหาการปล่อยน้ำจากจีนลงแม่น้ำโขง และปัญหาแม่น้ำสาละวิน ถ้าทูตเจรจาได้ดีก็จะปล่อยน้ำลงมาในแม่น้ำโขงได้ เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่ขาดน้ำ

ส.ส.ปชป.หนุนเพิ่มงบฯ กต.ในภาคใต้

ด้าน นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เสนอปรับลดงบฯ ลง 10 % เพราะวางนโยบายยังไม่ตอบโจทย์ปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะแผนความร่วมมือความมั่นคงแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ จัดงบฯ ไว้เพียง 30.8 ล้านบาท ถ้าเทียบกับปัญหาแล้ว 300 ล้านบาทยังถือว่าน้อยมาก

นายกนกกล่าวว่า การแก้ปัญหาชายแดนใต้ไม่ควรทำแบบงานฝาก แต่ต้องเป็นงานหลักที่กระทรวงการต่างประเทศทำความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งส่งเสริมการศึกษา เพื่อลดความขัดแย้ง และรักษาอัตลักษณ์ของเยาวชนในภาคใต้ ไม่ให้แนวคิดสุดโต่งมาเป็นจุดอ่อน

กระทรวงการต่างประเทศต้องทบทวน และปรับแนวคิดให้เข้ากับยุทธศาสตร์ชาติ บูรณาการแก้ปัญหาชายแดนใต้ โดยร่วมกันระหว่างหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน

หมอชลน่านจวกดอนชักศึกเข้าบ้าน

จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า ชื่นชมโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ที่ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ โดยไม่สนใจคำให้สัมภาษณ์ของเจ้ากระทรวง หักหน้าโดยไม่ปราณี

ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะคำให้สัมภาษณ์ของ รมต.ทำให้ตนต้องไปทวีตว่าขี้โม้ทำลายประเทศ ผีเจาะปากพาศึกเข้าประเทศ

ย้อนติง กต.ส่งบัตรเลือกตั้งล่าช้า ทั้งที่สำคัญ

นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุถึงปัญหาช่วงการเลือกตั้งรัฐบาล ที่กระทรวงการต่างประเทศเคยขาดความพร้อมในการทำงานรองรับการจัดเลือกตั้งในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย จีน

ที่หนักสุด กรณีที่บัตรจากนิวซีแลนด์ ที่มีคนมาใช้สิทธิ 1,500 คน แต่บัตรมาไม่ตรงเวลา และทาง กกต.ประกาศว่าเป็นบัตรใช้ไม่ได้ เป็นเหตุผลจากความล่าช้าผิดพลาด เชื่อว่าจะเป็นบทเรียนให้นำไปแก้ไขในการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เพราะคะแนนทุกคะแนนอาจเปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยได้