"ษิทรา" ให้ปากคำเพิ่มปมร้องสอบเครื่องไบโอเมทริกซ์

อาชญากรรม
9 ม.ค. 63
12:33
590
Logo Thai PBS
"ษิทรา" ให้ปากคำเพิ่มปมร้องสอบเครื่องไบโอเมทริกซ์
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ป.ป.ช.กรณีเป็นผู้ร้องให้มีการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเครื่องไบโอเมทริกซ์ ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อ้างว่าเกี่ยวพันกับการถูกยิงรถ

วันนี้ (9 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีโครงการไบโอเมทริกซ์ กับรถตรวจการไฟฟ้าอัจฉริยะ

กรณีนี้ นายษิทราร้องเรียนผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการว่าอาจมีพฤติกรรมทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมนำหลักฐานเพิ่มเติมและนำรายชื่อพยานอีก 13 ปาก ซึ่งเป็นนายตำรวจระดับนายพลตำรวจ 2 นาย ระดับนายพันตำรวจ 10 นาย และชั้นประทวน 1 นาย มามอบให้ ป.ป.ช.โดยอ้างว่าเป็นรายงานที่ได้รับมาจากสถานที่ต่างๆ ซึ่งพบว่าการใช้งานเครื่องไบโอแมทริกซ์ว่ามีปัญหา ไม่สามารถใช้งานได้จริง

นอกจากนี้ ยังอ้างด้วยว่าหากเครื่องไบโอแมทริกซ์ของโครงการนี้ใช้ไม่ได้จริง จะสร้างความเสียหายประมาณ 2,100 ล้านบาท ซึ่งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการนี้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ต้องมีการไต่สวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบ 4 นายพล ปมเครื่องไบโอเมทริกซ์

สำหรับโครงการนี้ นายษิทรา ร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนายตำรวจระดับนายพล 4 คน ตามรายชื่อ คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ ผู้บัญชการสำนักงานส่งกำลังบำรุง, พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7

ส่วนเรื่องปัญหาของรถไฟฟ้าอัจฉริยะ อ้างว่าสเปกสูงเกิน ไม่คุ้มค่าที่จะนำเงินภาษีของประชาชนไปใช้จ่าย และมีการสั่งใช้จำนวน 260 คัน รวมราคาประเมิน 900 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง