วันนี้ (10 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาฯ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระ 2 วันที่ 2 เมื่อวานนี้( 9 ม.ค.) ได้ใช้เวลาพิจารณาถึงเวลา 02.22 น.โดยสามารถพิจารณาได้มากกว่าวันแรก โดยพิจารณาร่างงบประมาณไปแล้วรวม 16 มาตรา
โดยพิจารณาถึงมาตรา 23 รายจ่ายกระทรวงวัฒนธรรม การประชุมเป็นไปเย่างราบรื่น และต่อเนื่อง รวมถึงผ่านการพิจารณาอย่างรวดเร็ว โดยเสียงข้างมากให้ความเห็นชอบผ่านร่างมาตราตามที่ กมธ.แก้ไข ทั้งนี้ในการพิจารณาวันที่ 2 ใช้เวลารวม 17 ชั่วโมง และเมื่อรวมกับเวลาที่พิจารณาในวันแรก 15 ชั่วโมง รวมเป็น 32 ชั่วโมง และผ่านพิจารณาไปทั้งสิ้น 23 มาตรา คงเหลืออีก 31 มาตรา
สำหรับการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วันที่ 3 จะเริ่มในเวลา 10.00 น.ซึ่งจะเข้าสู่วาระการพิจารณางบของกระทรวงศึกษาธิการ โดยงบฯ รายการกระทรวงจะเหลือเพียง กระ ทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม จากนั้นจะเป็นงบขององค์กรศาล รัฐวิสาหกิจ งบฯรายจังหวัด อปท.และงบตามแผนงานบูรณการต่างๆ
เล็งจบภายใน 15.00 น.
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงของวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน จะใช้เวลาพิจารณาวันที่ 3 ให้แล้วเสร็จเมื่อ ถึงเวลา 15.00 น. เนื่องจาก ส.ส.ต้องลงพื้นที่พบปะประชาชนเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ วันที่ 11 ม.ค.นี้
ทั้งนี้ตลอดทั้งวันของการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 สภาผู้แทนราษฎร ให้ความสำคัญในการอภิปรายตั้งข้อสังเกตถึงการจัดสรรงบประมาณของ 3 กระทรวงหลัก คือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงคมนาคม
ขณะที่การอภิปรายงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ กลับพุ่งเป้าไปที่ความเหมาะสมของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์การให้ข่าวคลาดเคลื่อนที่เกิดขึ้น การอภิปรายในมาตรา 10 ว่าด้วยงบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศส่วนการอภิปรายในมาตรา มาตรา 14 ว่าด้วยงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 32,577 ล้านบาทนั้น นอกจากข้อสังเกตและข้อห่วงใยเรื่องการบริหารจัดการน้ำ น้ำท่วม-น้ำแล้ง น้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค
วิพากษ์ฝุ่น PM2.5 แก้ไม่จบ
ขณะที่งบกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ส่วนใหญ่ยังถูกมองเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 ที่ยังไม่สามารถแก้ได้แล้วเสร็จแม้ว่าจะมีการประกาศแผนระดับชาติ แต่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และกลับมาเร็วทั้งในพื้นที่กทม.-ปริมณฑล และปัญหาฝุ่นในภาคเหนือที่เริ่มมีผลกระทบ รวมทั้งการตั้งข้อสังเกตการใช้งบในโครงการฟื้นฟูคลิตี้
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.อนาคตใหม่ ตั้งข้อสังเกตการเสนองบในการแก้ปัญหาสารตะกั่วปนเปื้อนลำห้วยคลิตี้ล่าง จ.กาญจนบุรี วงเงิน 200 ล้านบาท เพราะแก้มานาน 25 ปี ถึงจะตัดสินแต่ก็ยังไม่สามารถใช้น้ำได้ เพราะค่าตะกั่วในน้ำและในดินยังเกินมาตรฐาน เหตุผลเพราะในช่วงฟื้นฟูเอกชนล้มละลาย และคพ.ต้องใช้งบดำเนินการไป 462 ล้านบาท
การฟื้นฟูของรัฐก็มีปัญหาจากปี 2559-2562 เพราะมีการรั่วของสารตะกั่ว ขณะที่คพ.ยังเสนอของบเพิ่มเติม ทั้งที่ 4 ปีเพิ่งแค่ขุดบ่อฝังแร่ จึงต้องทบทวน หรือชะลอโครงการไว้ก่อน เนื่องจากใช้งบกว่า 460 ล้านบาท
ด้านายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เลขานุการกมธ.ร่างพ.ร.บ.งบฯ 63 กล่าวว่า ขอสงวนญัตติ 15% ของทส. อยากเห็นพัฒนาการจัดสรรงบที่เกิดประโยชน์กับประชาชน เสนอเรื่องเทรนด์การท่องเที่ยว พบว่ามีคนเข้ามากกว่าปีละ 10 ล้านบาท แตงบจัดสรรไปในแหล่งท่องเที่ยวมีแค่ 48 ล้านบาทใน 300-400 แห่ง ถ้าหารออกมาแค่แห่งละ 100,000 บาทก็คงหมด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถกมาราธอน 15 ชม.ผ่านแค่ 9 มาตราร่างงบฯ 63
"รังสิมา" ซัด กมธ.ตัดงบเกษตรฯ "แบบนี้ก็ไม่ต้องทำงาน"