โซเชียลเดือด! กระทุ้งรัฐเร่งสางฝุ่นพิษ - แนะกทม.ปิดโรงเรียน

สิ่งแวดล้อม
21 ม.ค. 63
11:06
828
Logo Thai PBS
โซเชียลเดือด! กระทุ้งรัฐเร่งสางฝุ่นพิษ - แนะกทม.ปิดโรงเรียน
โซเชียลสุดทนฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานทั้งสัปดาห์ "อาจารย์ศศิน" โพสต์เฟซบุ๊ก กระทุ้งหามืออาชีพเร่งสางปัญหาด่วน พร้อมแนะอาจถึงเวลาสั่งปิดโรงเรียน และขอความร่วมมืองดออกจากบ้าน ขณะที่โรงเรียนหลายแห่งทำป้ายเตือนดัชนีคุณภาพอากาศ แนะนำสวมหน้ากากอนามัยให้ นร.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

คนกรุงอ่วม! ลมสงบ-เจอภาวะ "ฝาชีครอบ" ทำฝุ่นสะสม

ค่าฝุ่น PM 2.5 กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยังพุ่งเกินมาตรฐาน

วันนี้ (21 ม.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์สภาพอากาศปิด ทำให้ กทม.และปริมณฑล เมื่อเวลา 09.00 น.ยังมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่องเกือบสัปดาห์ จนมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจพบค่าระหว่าง 47-76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งโรงเรียนริมถนนที่มีปัญหาการจราจรหนาแน่น มีการขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานดับเครื่องยนต์ และสวมหน้ากากอนามัยให้เด็กๆ 

ไทยพีบีเอสออนไลน์ สำรวจโรงเรียนเอกชนย่านหลักสี่ ครูฝ่ายปกครองมีการประกาศให้ผู้ปกครองดับเครื่องยนต์ในระหว่างที่ป้อนข้าวลูกภายในโรงเรียน เนื่องจากเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษ รวมทั้งยังขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัยให้กับบุตรหลานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังกำชับให้ครูดูแลเด็กเล็กไม่ให้ออกมาวิ่งเล่นกลางแจ้ง  ขณะที่โรงเรียนนำป้ายประกาศค่าดัชนีคุณภาพอากาศมาติดแสดงเพื่อให้ผู้ปกครอง และนักเรียนได้ดูรายละเอียดต่่างๆหลายๆจุดทั้งบริเวณหน้าเสาธง และอาคารเรียน 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เช้านี้ ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานหลายพื้นที่ หนักสุดริมถนนสามเสน

 

ส่วนความเคลื่อนไหวในโซเชียลหลังจากค่าฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มเกินค่ามาตรฐานตลอดสัปดาห์ ในทวิตเตอร์มีติดแฮชแท็กคำว่า#ฝุ่นกทม. #ฝุ่นPM25 #ฝุ่นกรุงเทพ #PM25 โดยชาวโซเชียล กังวลถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ภาครัฐมีความเข้มข้นกับการแก้ปัญหา

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ ball@Sompop_ball ระบุว่า ควรประกาศให้ระวังอันตรายจากฝุ่นแบบจริงจังแล้ว!! บรรยากาศเช้านี้ที่บางซื่อ 

 

นายศศิน เฉลิมลาภ โพสต์เฟชบุ๊กว่า วันนี้อาจถึงเวลาสั่งปิดโรงเรียนสองอาทิตย์และขอความร่วมมืองดออกจากบ้าน

 

ขาดมืออาชีพแก้ปัญหาฝุ่น 

นอกจากนี้ นายศศิน ยังโพสต์เฟซบุ๊กว่า สิ่งที่ชัดเจนในท่ามกลางสลัวฝุ่น โดยระบุว่า ผู้นำประเทศไม่มีจิตวิทยาในการบริหารจัดการภาวะวิกฤติ และวิกฤติศรัทธา ทั้งในแง่ทักษะการบริหาร และการสื่อสาร ที่สำคัญคือความจริงใจในเรื่องความห่วงใยประชาชน

นอกจากนี้ การบริหารจัดการวิกฤติ ต้องใช้ "มือดี" เพื่อบรรเทาปัญหา หรือ อย่างน้อยที่สุด ทำให้มีความหวังบ้างต้องดูไล่ลงมา มือดีต้องมีความรู้ กล้าตัดสินใจ มีทีมงาน และทุ่มเท
มือดีที่ว่า เป็นใคร

  • รองนายกที่ดูเรื่องสิ่งแวดล้อมเพราะต้องบูรณาการหลายกระทรวง วันนี้เรามีใครทำหน้าที่นั้น
  •  รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต้องเหมือนหนูถีบจักรประสานทุกฝ่ายให้สำเร็จ จาก รองนายกข้อ 2.1
  •  รัฐมนตรีคมนาคมที่สามารถจัดการเรื่องรถควันดำ จำกัดรถบางประเภท และชะลอการก่อสร้างรถไฟฟ้า
  •  รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรที่สามารถจัดการเรื่องอ้อย
  •  รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องจัดการเรื่องโรงงานอ้อย
  •  รัฐมนตรีสาธารณสุข ที่ต้องตระหนักถึงวิกฤติการณ์ต่อสุขภาพคน
  • อธิบดีกรมควบคุมมลพิษที่ต้องพัฒนาระบบข้อมูลและชงมาตรการที่ชัดเจน เร่งด่วน มีความหวัง
  • ผู้ว่า กทม. และจังหวัดอื่นๆ ที่ต้องวิ่งทำทุกอย่างที่ลดปัญหาและตัดสินใจเฉพาะหน้าโดยใช้ พรบ.สาธารณสุข เรื่องเหตุเดือดร้อนรำคาญ

พอคิดและลิสต์มาทั้งหมดในหัวข้อ 2 ก็ต้องย้อนไปดู ข้อ 1

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง คพ.ตอบ "โจอี้ บอย" ไม่นิ่งนอนใจแก้ฝุ่น PM2.5

"ทราย" โพสต์ถามผู้นำลองนั่งรถเมล์ร้อนตระเวนกรุง

ส่วนดารานักแสดงทราย เจริญปุระ โพสต์เฟซบุ๊กว่า อยากจัดค่ายผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานราชการและประเทศ ออกเดินทางด้วยรถเมล์ครีมแดง ออกจากรัฐสภา วนรอบกรุงเทพ จรดมีนบุรี หนองแขม บางนา บางขุนเทียน ตลิ่งชัน วนยังไงก็ได้ให้ครบ 4 ชั่วโมง เท่าเวลาเฉลี่ยที่คนกรุงเทพ ใช้ในการเดินทางไปทำงานทุกวัน เมื่อกลับมาถึงให้ยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ตั้งแถวจนกว่าแถวจะตรง ใครคุยหรือยุกยิกทดเวลาเพิ่มไปอีกห้านาที เคารพธงชาติ สวดมนต์​ ฟังประชาชนให้โอวาท ฟังเราพูดจนกว่าเราจะพอใจ (เราพูดอยู่ในห้องแอร์ที่มีเครื่องฟอกอากาศ Dyson) จากนั้นให้เดินเรียงแถวไปประชุม ถ้าแถวไม่ตรงกลับมาเดินใหม่

ที่ประชุมวันนี้ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม แต่เราจะเช่าเตนท์มากางให้กลางสนาม ติดตั้งระบบเสียงอย่างดี ประชุมแบบเอาท์ดอร์กันดูหน่อยซิ อาหารการกินครบถ้วน ขาดอย่างเดียวคือหน้ากากกันฝุ่น ขอโทษทีไม่มีแจก ประชุมเลิกซักห้าโมงเย็น เดี๋ยวให้รถเมล์มินิบัสพาไปส่งที่บ้าน พร้อมอาหารเย็นใส่กล่องให้ไปด้วย ใจดี  แล้วมาดูกันซิว่าจะยังนิ่งเฉยอยู่อีกไหม

 

ชง 17 มาตรการแก้ปัญหาระยะสั้น

ด้านนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ว่า คพ.ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขและป้องกันทั้งหมด 17 มาตรการ และเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ โดยมาตรการระยะสั้น จะเกี่ยวข้องกับการห้ามไม่ให้รถบรรทุกวิ่งในถนนบางจุด การควบคุมภาคอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง ดำเนินมาตรการเกี่ยวกับการเผา ควบคุมการก่อสร้างในเมือง การตั้งจุดตรวจจุดสกัดรถควันดำเป็น 50 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร เป็นต้น เชื่อว่าหากที่ประชุมครม.มีมติออกมา ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตาม และจะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้น

เปิดสถิติค่าฝุ่นพุ่ง 7 วันติด

ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) พบว่าตั้งแต่วันที่ 14-20 ม.ค.นี้ ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงของ PM 2.5 ณ เวลา 07.00 น. (มคก.ต่อลบ.ม.) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันที่ 14-20 ม.ค.2563 เริ่มมีแนวโน้มค่าฝุ่นสูงขึ้น 

  • 14 ม.ค. ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง 49 มคก.ต่อลบ.ม.คุณภาพอากาศปานกลาง
  • 15 ม.ค. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 46 มคก.ต่อลบ.ม. คุณภาพอากาศปานกลาง
  • 16 ม.ค. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 55 มคก.ต่อลบ.ม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
  • 17 ม.ค. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 55 มคก.ต่อลบ.ม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
  • 18 ม.ค. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 66 มคก.ต่อลบ.ม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
  • 19 ม.ค. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 78 มคก.ต่อลบ.ม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
  • 20 ม.ค. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง 75 มคก.ต่อลบ.ม. เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง