หมอเตือน "จูบ" เสี่ยงโรคติดต่อโมโนนิวคลิโอซิส

สังคม
23 ม.ค. 63
09:39
3,097
Logo Thai PBS
หมอเตือน "จูบ" เสี่ยงโรคติดต่อโมโนนิวคลิโอซิส
หมอโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช เตือนวัยรุ่นระวังโรคโมโนนิวคลิโอซิส ติดต่อจากการจูบ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสไวรัสเอ็บสไตบาร์ ที่สามารถแพร่กระจายจากน้ำลาย การไอ หรือจาม แนะสังเกตอาการมีไข้ เจ็บคอ อ่อนเพลีย เป็นผื่นตามตัว

วานนี้ (22 ม.ค.2563) นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.โรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช โพสตฺเฟชบุ๊ก Arak Wongworachat เตือนโรคติดต่อจากการจูบ โดยระบุว่า #โรคโมโนนิวคลิโอซิส โรคติดต่อจากการจูบ ไข้เจ็บคอมีผื่นตามตัว

โดยนพ.อารักษ์ ระบุว่ามีผู้ป่วยชายอายุ 15 ปีมาพบแพทย์หลังจาก 7 วันก่อนมีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ เบื่ออาหาร เหงื่อออกตอนกลางคืน เหมือนคล้าย จะเป็นหวัดซื้อยากินเองไม่ดีขึ้น ไปหาหมอที่คลินิกแพทย์ ตรวจร่างกายส่องในคอบอกว่ามีหนองเป็นทอนซิลอักเสบ จึงให้ยาต้านเชื้อแบคทีเรียไปกิน

วันต่อมามีผื่นขึ้นเต็มตัวตั้งแต่หน้า คอ หน้าอก หลัง จึงไปพบแพทย์อีกครั้ง กังวลว่าแพ้ยาแพทย์ที่คลินิกเห็นว่า คนไข้อ่อนเพลียมาก จึงส่งเข้าโรงพยาบาลสิชล รับคนไข้ตรวจเพิ่มเติมพบต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ ม้ามโต ไม่ซีด ไม่เหลือง ตรวจเม็ดเลือดพบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูง12,800 cells/mm*3 มี lymphocyte50%monocyte5%atypical lymphocyte7% เข้าได้กับโรคโมโนนิวคลิโอซิส

โรคโมโนนิวคลิโอซิส เป็นโรคที่เรียกกันว่า โรคติดต่อจากการจูบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr Virus: EBV) ที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย การไอ หรือการจาม ใน

เบื้องต้นผู้ป่วยจะมีไข้ เจ็บคอ และรู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อเป็นแล้วมักจะค่อย ๆ หายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยโรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ แต่ส่วนมากเกิดในวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่น

วิธีป้องกัน คือหลีกเลี่ยงการจูบกับผู้ที่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น รวมถึงผ้าเช็ดหน้า หรือของใช้ส่วนตัวต่างๆ พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำลายหรือเสมหะของผู้อื่น ส่วนตัวผู้ป่วยเองก็พยายามหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อโรคไปยังผู้อื่นด้วยเช่นกัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง