ปลัด ทส.ขานรับตั้ง Thailand EPA ปกป้องสิ่งแวดล้อม

สิ่งแวดล้อม
24 ม.ค. 63
17:56
557
Logo Thai PBS
ปลัด ทส.ขานรับตั้ง Thailand EPA ปกป้องสิ่งแวดล้อม
มติบอร์ดสิ่งแวดล้อมสั่งยกระดับแก้ฝุ่นพิษ ชี้ 28 ม.ค.นี้ สภาพอากาศปิดและลมนิ่ง อาจส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมในอากาศสูงขึ้น จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ด้านปลัด ทส.ขานรับข้อเสนอเตรียมศึกษาตั้งหน่วย Thailand EPA ปกป้องสิ่งแวดล้อม

จากกรณีปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดผลประทบต่อเนื่องในรอบปีนี้ ทำให้มีข้อเสนอจากภาคประชาชนให้ยุบกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และตั้ง Thailand EPA เพื่อให้การแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จและมีอำนาจในการทำงานที่คล่องตัวขึ้น  

วันนี้ (24 ม.ค.2563) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า การเสนอให้ประเทศไทยมีหน่วยงานระดับประเทศแบบเดียวกับสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency -EPA) หรือ "อีพีเอ"ของประเทศสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในประเด็นที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการพูดคุยกันเบื้องต้น เพื่อหารือในหลักการว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่

ตอนนี้รับทราบข้อเสนอแล้ว ซึ่งอยู่ในแผนปฎิรูปหน่วยราชการ ซึ่งต้องยอมรับว่าหน่วยงานทางสิ่งแวดล้อมเกิดจากพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งผ่านมาเกือบ 28 ปีอาจจะไม่ทันกับสถานการณ์

 

นายจตุพร กล่าวว่า ในขณะนั้นตั้งหน่วยงานหรือกฎหมายที่รองรับ การวางรูปแบบองค์กรอาจจะสอดรับกฎหมายในขณะนั้น แต่เมื่อผ่านมาหลายปีจึงอาจจะต้องปรับเปลี่ยนหรือปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานใหม่  ซึ่งตอนนี้เป็นการบ้านที่ ทส.ต้องมาคิดปรับรูปแบบใหม่ แต่ทั้งนี้ต้องมีรายละเอียดข้อมูลที่ชัดเจน เพราะเดิมกรมควบคุมมลพิษ เป็นแค่ REGULATOR ไม่มีอำนาจไปสั่งการใครได้ ส่วนที่หน่วยงานอื่นๆ กรมอื่นต้องรับไปดำเนินการ

ก่อนหน้านี้มีนักสิ่งแวดล้อม เสนอให้ยุบกรมควบคุมมลพิษ และตั้ง Thailand EPA ขึ้น หลังจากตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมายังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นได้อย่างเป็นรูปธรรม

ภาพ: เฟซบุ๊ก Tara Buakamsri

ภาพ: เฟซบุ๊ก Tara Buakamsri

ภาพ: เฟซบุ๊ก Tara Buakamsri

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ฝุ่นพิษรุนแรง "กทม.-ปริมณฑล" กระทบสุขภาพ 60 พื้นที่

มติบอร์ดสิ่งแวดล้อมสั่งยกระดับแก้ฝุ่นพิษ

ขณะที่การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) ที่ประชุมได้มีมติให้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการต่างๆ ที่หน่วยงานภาครัฐได้ดำเนินการไปแล้ว โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย เช่น ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้ามาในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครบริเวณวงแหวนกาญจนาภิเษกในวันคี่ ตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. ระหว่างเดือนม.ค.-ก.พ.นี้ ส่วนวันคู่ให้เข้าได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด ตรวจวัดควันดำอย่างเข้มงวดกับรถโดยสาร (ไม่ประจำทาง) และรถบรรทุกทุกคัน โดยเพิ่มชุดตรวจเป็น 50 ชุด ใน 50 เขต 

 

นอกจากนี้ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้กระทำการเผา โดยในพื้นที่ต่างจังหวัดให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดควบคุมไม่ให้มีการเผาในที่โล่ง โดยเฉพาะไร่อ้อยในช่วงที่พื้นที่นั้นๆมีค่าฝุ่นละอองสูงจนกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งนี้ในวันที่ 28 ม.ค.นี้สภาพอากาศปิดและลมนิ่ง อาจส่งผลให้ฝุ่นละอองเกิดการสะสมในอากาศสูงขึ้น จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตะกร้ากรองฝุ่น PM2.5 "ราคาถูก-มีประสิทธิภาพ"

"สุริยะ" สั่งเร่งแก้ปัญหามลพิษ ขอโรงงานลดกำลังการผลิต

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง