มือกลองวัยโจ๋ หอบฝันมาแสนไกล ขึ้นเวทีใหญ่ระดับโลก

Logo Thai PBS
มือกลองวัยโจ๋ หอบฝันมาแสนไกล ขึ้นเวทีใหญ่ระดับโลก
2 มือกลองวัยรุ่นจากเชียงใหม่ เปิดใจ หลังเดินทางไกลเข้าค่ายดนตรี ก่อนขึ้นเวทีกับศิลปินระดับโลก ที่วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

การเดินทางของ “ออกัสกับฮับ” เพื่อมางาน “เทศกาลดนตรีแจ๊ส เพื่อการเรียนรู้” Thailand International Jazz Conference 20 จากเชียงใหม่ สู่ศาลายา จ.นครปฐม เพราะเชื่อว่า ที่นี่คือ “นิวยอร์คแจ๊สซีน ที่จะได้เล่น ได้เรียนรู้ หาประสบการณ์จากศิลปินชั้นนำระดับโลก

 

ทั้ง 2 ในจำนวน 15 คน ที่ได้รับการคัดเลือกให้มีโอกาสได้แสดงร่วมกับศิลปินระดับโลก ในคืนวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.ที่จะถึงนี้ บน Main Stage วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

แต่ก่อนที่จะถึงวันขึ้นเวที ทั้งสองคนจะต้องเข้าแคมป์เป็นเวลา 3 วัน คือในวันที่ 27-29 ม.ค. เพื่อซ้อมการแสดงอย่างหนัก สำหรับความพร้อมในวันแสดงจริง

 

ออกัส หรือ ด.ช.ณกรณ์ คู่เจริญถาวร อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้นป.5 โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เริ่มชอบดนตรีจากการเคาะชาม เคาะขัน เป็นจังหวะ กระทั่งพ่อเริ่มสังเกตเห็น และซื้อกลองให้ตี ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ จากนั้นก็เรียนรู้เรื่อยมา จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังฝึกมาโดยตลอด

ออกัสมีโอกาสก็จะไปเล่น Street Jazz ที่เชียงใหม่ บางครั้งก็ไปเล่นกับวงผู้ใหญ่ตามผับแจ๊ส และลงแข่งขันในเวทีต่างๆ ก็มีทั้งติดอันดับบ้างไม่ติดบ้าง

ผมคิดว่า การที่ได้ออกมาเรียนรู้ จะทำให้เราชินกับการฟัง ไม่ตื่นเต้นมากเวลาเล่น และได้ทักษะการแสดงสด (improvise) ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง อย่างครั้งนี้ที่จะได้ขึ้นเวทีหลัก ซึ่งก็ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะไม่เคยชินกับเวทีใหญ่ๆ แต่จะพยายามทำให้ดี ตอนนี้ผมก็จะเข้าแคมป์ ซึ่งมีศิลปินระดับโลกมาสอน ผมชอบครับ เพราะได้เทคนิคใหม่ๆ เขาบอกหมดและได้แจมส์กับนักดนตรีระดับเทพ

 

ขณะที่ กันต์ หรือ ด.ช.ชนกันต์ โนจนานฤดม อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ร.ร.ปรินส์รอเยลวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เริ่มเล่นกลองตอนอายุ 6 ขวบ เป็นครั้งแรกที่ได้มาหาประสบการณ์ที่นี่

ดีใจครับ ไม่ได้คิดว่าจะมาเล่นเวทีเดียวกัน กับนักดนตรีระดับโลก รู้สึกตื่นเต้น ตอนนี้ก็ฟังเพลง แกะโน้ตไปเรื่อยๆ เพราะยังไม่เคยเล่นสไตล์นี้ ปกติผมจะเล่นร็อก เล่นป๊อป ก็อยากทำให้ออกมาดี อยากให้คนดูประทับใจ และชอบที่เราเล่น

ทั้งสองคนเดินทางมาจากเชียงใหม่ โดยมี อุเทน คู่เจริญถาวร พ่อของออกัส ขับรถมาให้ เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และเมื่อมาถึงแล้ว จะได้คล่องตัว

 

อุเทนเล่าว่า เด็กทั้ง 2 คน เป็นมือกลองและเล่นวงเดียวกัน ครั้งนี้เขาจะเล่น 3 เพลงบน Main Stage ออกัสเล่น 2 เพลง ส่วนน้องกันต์เล่น 1 เพลง 5 วันที่พาเด็กๆ มา ผมคิดว่าเขาจะได้รับทั้งประสบการณ์ การเล่น ได้เรียนรู้ เพราะกลางวันก็ได้ดูวงอื่นๆ เล่น ตลอดทั้งวัน หรือสนใจเวิร์คช็อปห้องไหนก็วิ่งเข้าไปได้ เพราะเราได้โคว้ต้า ก็เข้าฟรีตลอดทั้งงาน สำหรับเด็ก ส่วนผู้ปกครอง เสียแค่ครึ่งราคา คิดดูว่าถ้าเราต้องไปต่างประเทศค่าใช้จ่ายจะขนาดไหน ซึ่งก็คงไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม ผมจะถามความสมัครใจของลูกก่อน เมื่อเขาต้องการหากเราไม่สนับสนุนก็เหมือนตัดโอกาส ต้องยอมรับว่า ที่นี่เขาาลงทุนในการให้ความรู้สูงมาก ถ้าเราไม่รับก็พลาดโอกาสที่สำคัญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง