วันนี้ (30 ม.ค.2563) นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการความปลอดภัย ขสมก. ได้หารือเพื่อสรุปแนวทางป้องกันและสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานและผู้โดยสาร โดยมีคำสั่งให้จัดซื้อหน้ากากอนามัย N95 เจลล้างมือ อุปกรณ์ฆ่าเชื้อโรคภายในรถโดยสารทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศ รวมทั้งให้ดำเนินการทำความสะอาดอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสมาก เช่น ราวจับ และเบาะที่นั่ง
ส่วนรถขสมก. ที่วิ่งให้บริการที่จุดรับส่งภายในสนามบิน จะทำความสะอาดบริเวณจุดพักคอยผู้โดยสาร ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนมั่นใจการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
ขณะที่ในแต่ละวัน ขสมก.มีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 500,000 คน อย่างไรก็ตามการระบาดของไวรัสโคโรนายังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งไม่มีการลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วงปกติ
สำหรับมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ผอ.ขสมก.ยืนยันว่า มีมาตรการคุมเข้มในเรื่องนี้ ซึ่งได้สั่งการให้ทุกเขตการเดินรถตรวจสภาพควันดำที่มีค่าทึบแสงไม่ให้เกินร้อยละ 45 ก่อนออกไปให้บริการ
ส่วนประเด็นที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า รถเมล์ ขสมก.เป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองนั้น ผอ.ขสมก.ระบุว่า ปัจจุบันมีรถโดยสารที่ใช้น้ำมันดีเซล 2,000 คัน ไม่อยากให้มองว่าเป็นสาเหตุหลัก เนื่องจาก ปริมาณรถทั้งหมดที่ใช้น้ำมันดีเซลที่วิ่งในเขตกรุงเทพและปริมณฑลรวมกันมีมากกว่า 2 แสนคันต่อวัน
ขณะที่แผนการเปลี่ยนรถโดยสารทั้ง 2,000 คันเป็นรถโดยสารใหม่ และใช้เชื้อเพลิงสะอาดมาทดแทน ยืนยันว่า ขสมก.มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนและปลดระวางรถหมดอายุอยู่แล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน รวมถึงขั้นตอนการผลิตและส่งมอบก็ยังต้องใช้เวลาอย่าง 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง