ถกบ่ายนี้ ยกระดับรับมือ "ไวรัสโคโรนา" หลังประกาศภาวะฉุกเฉินโลก

สังคม
31 ม.ค. 63
11:04
417
Logo Thai PBS
ถกบ่ายนี้ ยกระดับรับมือ "ไวรัสโคโรนา" หลังประกาศภาวะฉุกเฉินโลก
สธ.หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเอกชน ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังองค์การอนามัยโลก ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ

วันนี้ (31 ม.ค.2563) เวลา 10.00 น. กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์และแนวทางรับมือป้องกันโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ทำให้การทำงานร่วมกันระหว่าง WHO และประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระดมทรัพยากรเพิ่มขึ้นในการแก้ปัญหา จำกัดการแพร่ระบาดจากต้นทาง

ในช่วงบ่ายวันนี้ (31 ม.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ โดยหารือแผนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน คาดว่าจะยกระดับมาตรการเข้มแข็งขึ้น สอดคล้อง WHO เช่น การทำงานร่วมกับสายการบินต่าง ๆ เพื่อคัดกรองผู้ต้องสงสัยติดเชื้อตั้งแต่ต้นทาง, การพิจารณาว่าจะประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย ลำดับที่ 14 หรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบผลกระทบเศรษฐกิจ สังคม และการเดินทางร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม หลายเที่ยวบินพบว่านักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดลดลงแล้วร้อยละ 80 อาจไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการในขณะนี้

ประเทศต่าง ๆ ต้องยกระดับหลัง WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งไทยทำได้เข้มข้นและรวดเร็วแล้ว จะมีการยกระดับการป้องกันด้วย ให้ประชาชนทุกคนเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันโรค

ขณะที่สถานการณ์ในไทย แพทย์อนุญาตให้ผู้ติดเชื้อดังกล่าวกลับบ้านเพิ่มอีก 1 คน เป็น 7 คน ส่วนผู้ป่วยที่เหลือ 7 คน อาการดีขึ้น อยู่ระหว่างการรักษาและรอผลแล็บ โดยไทยดำเนินมาตรการตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งเฝ้าระวังติดตามและคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากอู่ฮั่น จากนั้นได้คัดกรองผู้โดยสารจากเมืองอื่นที่พบการแพร่ระบาดด้วย โดยพบผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนขณะนี้ 280 คน ตรวจพบที่สนามบิน 37 คน อีกส่วนหนึ่งมารักษาที่โรงพยาบาล พบส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่

นอกจากนี้ เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) พบผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนอีก 78 คน ซึ่งต้องเข้าสู่การรักษาและเก็บตัวอย่างส่งตรวจ รวมทั้งประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์หรือไม่

หลายประเทศคุมเข้มแพร่ระบาด

ขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ให้ความสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เนื่องจากมีรายงานการพบผู้ป่วยเป็นประชาชนในพื้นที่ที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลีใต้ เยอรมนี สหรัฐฯ โดยคาดว่าได้รับเชื้อจากผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว จึงแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ ป้องกันแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ

ยังไม่มีงานวิจัย "ฟ้าทะลายโจร" รักษาโคโรนา

นพ.สรรพงศ์ ฤทธิรักษา กล่าวว่า ข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่า ฟ้าทะลายโจรมีประโยชน์หลายด้าน ที่สำคัญคือกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยต่อต้านการอักเสบ และมีฤทธิ์ต้านไวรัส ซึ่งจีนได้มีการศึกษาใช้สารสำคัญในการรักษาผู้ป่วยโรคซาร์ส แต่ไวรัสซาร์สกับโคโรนา มีลำดับที่ต่างพันธุกรรมกัน ยังต้องมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การใช้สมุนไพรเป็นมาตรการเสริมจากการออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

 

พร้อมรับนักศึกษาไทยในอู่ฮั่น

นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยันมาตรฐานการดูแลผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และโรงพยาบาลเตรียมการรองรับทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ขณะนี้ได้รับการแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่าจะเดินทางไปรับนักศึกษากลับไทย 60 กว่าคน โดยมีการเตรียมทีมแพทย์ อุปกรณ์ การควบคุมป้องกันโรคและเฝ้าระวังติดตาม ส่วนทีมแพทย์ต้องปฏิบัติตตามมาตรฐานการป้องกันโรค และอยู่ในข่ายการเฝ้าระวังด้วย

ทีมแพทย์ต้องมีความคล่องตัว มีประสบการณ์ในการดูแลและป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยจะหารือบ่ายวันนี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง