วันนี้ (31 ม.ค.2563) พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างประชุม ครม.เศรษฐกิจว่า วันนี้ต้องคุยถึงมาตรการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการชี้แจงและอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย เนื่องจากฝ่ายค้านบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้นต้องเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงให้ฝ่ายค้านทราบว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไว้บ้าง และ 2 เรื่องที่อยากให้เตรียมไว้คือ มาตรการทางด้านเศรษฐกิจและเรื่องของการค้าการลงทุนและที่ต้องการให้เตรียมทั้ง 2 เรื่องนี้ไว้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อจะได้ชี้แจงให้ทุกคนได้ทราบ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจวันเดียวกันนี้ นายสมคิด จตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้าร่วมประชุมโดยมีรายงานว่านายสมคิดได้ลาป่วยแต่ไม่ได้แจ้งว่าเป็นอะไร
ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ ยุทธศาสตร์ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มุ่งประเด็นไปที่ผู้รับผิดชอบหลักของรัฐบาล คือนายกรัฐมนตรี เพราะในวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจความรับผิดชอบทั้งการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หัวหอกทางความมั่นคง และทางการเมือง เอาไว้หมด
การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ หัวใจหลักจึงอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นสำคัญ ทั้งนี้ก็จะมีประเด็นความรับผิดชอบเฉพาะบุคคล ที่จะมุ่งประเด็นไปที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่มีหลักฐานความผิดพลาด ความไร้ประสิทธิภาพ รวมทั้งคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสม อย่างชัดเจนด้วย
วันนี้ประเทศเราอยู่ท่ามกลางวิกฤติรอบด้านบางเรื่องเป็นผลจากปัจจัยภายนอก บางเรื่องเป็นผลจากปัจจัยภายในรัฐบาลเอง ซึ่งสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้และเห็นประจักษ์ได้ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถบริหารจัดการปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาฝุ่นละออง มาจนถึง ไวรัสโคโรน่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาวิกฤตที่กระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่อย่างรุนแรง ทั้งนี้ไม่เพียงแต่รัฐบาลจะไม่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาแล้ว ยังกระทำสิ่งที่ผิดพลาดซ้ำเติมปัญหาในทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะมีผลของการโหวตออกมาอย่างไร ไม่สำคัญเท่ากับการรับรู้และความคิดเห็นของประชาชน ที่ตัดสินรัฐมนตรีแต่ละคน แม้ว่าเราจะทราบกันดีว่า เสียงสนับสนุนของพรรคร่วมฝ่ายค้านมีน้อยกว่า แต่เป้าหมายของเราคือการนำข้อเท็จจริง และผลงานเชิงประจักษ์ที่แสดงความล้มเหลวของรัฐบาล มาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ
ทั้งนี้เพราะฝ่ายค้านมีหน้าที่ชี้ให้ประชาชนเห็นปัญหาความล้มเหลวในการบริหารงาน และความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ส่วนประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจมีหน้าที่ต้องเปิดรับข้อมูลข้อเท็จริงจากการตรวจสอบ เพื่อแสดงความคิดเห็นให้รัฐบาลได้รับทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของตนว่าจะยอมเสี่ยงให้ประเทศเราต้องตกอยู่ภายใต้รัฐบาลที่ล้มเหลวในการบริหารงานชุดนี้หรือไม่