นศ.ไทยเล่าประสบการณ์ 14 วัน กักตัวเฝ้าระวัง "ไวรัสโคโรนา" ในจีน

สังคม
1 ก.พ. 63
11:44
2,151
Logo Thai PBS
นศ.ไทยเล่าประสบการณ์ 14 วัน กักตัวเฝ้าระวัง "ไวรัสโคโรนา" ในจีน
นักศึกษาไทยในเมืองจีน เล่าประสบการณ์ถูกกักพื้นที่เฝ้าระวังไวรัสโคโรนา 14 วัน ในเมืองจีน ต้องให้คนส่งอาหาร แม้แต่ซักผ้าก็ออกมาไม่ได้ ยืนยัน ขนส่งมวลชนในจีนตรวจเข้มทุกพื้นที่ กฎเหล็กต้องสวมหน้ากากอนามัย คุมเข้มป้องกันไวรัสโคโรนาระบาด

วันนี้ (1 ก.พ.2563) ไทยพีบีเอสออนไลน์สัมภาษณ์ นายอิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์ นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฉงชิ่ง เกี่ยวกับประสบการณ์ถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศจีน หลังจากเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อต้องขึ้นเครื่องบินกลับประเทศจีน กลับต้องพบกับมาตรการตรวจเข้มเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์


นายอิทธิพัทธ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ต้องไปต่อเครื่องที่สนามบินซีอาน แต่เมื่อเครื่องบินลงจอดต้องรออยู่บนเครื่องบินนานถึง 4 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบโรค โดยจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาซักประวัติว่ามีใครมาจากอู่ฮั่นหรือไม่ พร้อมให้กรอกข้อมูลลงในกระดาษ ซึ่งสอบถามข้อมูลภายใน 28 วัน เดินทางไปที่ไหนมาบ้าง ล่าสุดเดินทางมาจากที่ไหน เป็นคนสัญชาติอะไร มีอาการอย่างไรบ้าง พร้อมวัดอุณหภูมิ 

ต้องบอกว่าเขาตรวจละเอียดมาก จนตกใจ เพราะเราไม่ได้ตามข่าวมาก่อน แต่พอมาถึงจีนแล้ว ไม่ใช่ทุกคนจะได้ลงจากเครื่องบินพร้อมกัน แต่ละเครื่องต้องตรวจอาการอย่างละเอียด ทำให้ต้องรอบนเครื่องบินนานถึง 4 ชั่วโมง

หลังจากลงจากเครื่องบินที่สถนามบินซีอานแล้ว ต้องขึ้นเครื่องบินต่อไปยังฉงชิ่งเพื่อกลับมหาวิทยาลัย นายอิทธิพัทธ์ ต้องผ่านการตรวจสอบโรคอย่างเข้มงวดอีกถึง 3 ครั้ง ทั้งช่วงเข้าสนามบินหลังลงเครื่องที่มาจากญี่ปุ่น ช่วงเข้าเกตเพื่อไปขึ้นเครื่องไปฉงชิ่งและช่วงถึงฉงชิ่งซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะคล้ายคลึงกันและใช้เวลานาน

14 วัน ออกไปไหนไม่ได้ แม้แต่ซักผ้า

เมื่อกลับถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ดำเนินการให้นักศึกษษที่เดินทางไปต่างประเทศหรือเดินทางไปนอกเขตพื้นที่ฉงชิ่งเข้ากักพื้นที่เฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วัน โดยให้อยู่แค่ในห้องที่หอพักเท่านั้น ห้ามออกไปข้างนอกแม้แต่ออกไปซักผ้า

เรื่องข้าว มหาวิทยาลัยจะให้ยามมาส่ง เขาให้เราเลือกว่าจะเอาข้าวเช้า เที่ยง เย็น หรือเอามื้อไหน พอถึงเวลาเขาจะมาเคาะห้องแล้วตั้งไว้หน้าประตู ส่วนเราก็ซื้อปรอทมาวัดอุณหภูมิทุกวัน เพราะก็กังวลเหมือนกัน
ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

นายอิทธิพัทธ์ ยอมรับว่า รู้สึกกลัวและกังวลมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่พบกับเหตุการณ์เช่นนี้ อีกทั้งยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างบ้านต่างเมือง จึงทำให้ยิ่งกลัวมากขึ้น ซึ่งขณะที่อยู่ภายในห้องก็ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ จากสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างต่อเนื่อง โดยแอปพลิเคชันเว่ยป๋อของจีนจะมีการแจ้งเตือนยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา รวมถึงยอดผู้เสียชีวิตและยอดผู้มีอาการดีขึ้นอย่างละเอียดในทุกๆ วัน ว่าเขตไหน เมืองไหนมีความเคลื่อนไหวอย่างไร

สวมหน้ากากอนามัย กฎเหล็กเมืองจีน

ขณะที่สถานการณ์ในเมืองประชาชนเริ่มออกมาข้างนอกน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งหลังจากกักพื้นที่เฝ้าระวังครบ 14 วันแล้ว หากไม่มีอาการของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา มหาวิทยาลัยก็จะอนุญาตให้ออกไปข้างนอกได้แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยและล้างมืออยู่เสมอ 

เรื่องสวมหน้ากากอนามัยเขาจริงจังมาก บางที่อย่างสนามบิน รถบัส รถไฟความเร็วสูง ถ้าไม่สวมหน้ากากอนามัยเขาไม่ให้ขึ้นเลย เพราะฉะนั้นหน้ากากอนามัยสำคัญมาก แต่ตอนนี้เริ่มขาดตลาดแล้ว
ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

นายอิทธิพัทธ์ ระบุว่า ในช่วงที่เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มพบคนจีนทยอยซื้อหน้ากากอนามัย N95 เพื่อกักตุนกลับไปที่ประเทศจีนจำนวนมากในหลายพื้นที่ ซึ่งเมื่อกลับมาประเทศจีนก็พบว่า หน้ากากาอนามัย N95 นั้นหาซื้อได้ยากขึ้นจริง โดยเฉพาะในอู่ฮั่นมีรายงานข่าวท้องถิ่นระบุว่า ขาดตลาดแล้ว แต่ก็เริ่มมีคนบริจาคหน้ากากรวมถึงคนต่างชาติที่มีการส่งหน้ากากอนายมัยเข้ามาช่วยเหลือเช่นกัน

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์

ภาพ : อิทธิพัทธ์ กิจธนพูลทรัพย์


ทั้งนี้ นายอิทธิพัทธ์ วางแผนว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเดือน ก.พ.หลังมีการกักพื้นที่เฝ้าระวังโรคครบ 14 วัน โดยจะเดินทางกลับด้วยตนเองพร้อมเพื่อนนักศึกษาไทยอีก 1 คน และคาดว่าจะเข้ารับการตรวจสอบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยละเอียดในโรงพยาบาลที่กรุงเทพมหานครก่อนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากยังมีความกังวลว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง