วันนี้ (5 ก.พ.63) ส.ส.ในนามกลุ่มสามมิตร จากพรรคพลังประชารัฐกว่า 40 คน อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี , นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรค , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงยุติธรรม , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รวมทั้ง ส.ส.ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด มารวมตัวกันที่โรงแรมสุโกศล เพื่อหารือวางแผนเตรียมรับมืออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 6 คน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะแกนนำกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า เดิมกลุ่มสามมิตรได้ยกเลิกไปแล้ว แต่ที่ต้องมารวมตัวกันอีกครั้ง เนื่องจากจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรวม 6 คน กลุ่มสามมิตร ก็ต้องช่วยกันระดมความคิดในฐานะที่มีประสบการณ์ทางการเมืองหลายคน และผ่านการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว
ส่วนญัตติของฝ่ายค้านที่ใช้คำกล่าวหาว่าเถื่อน เป็นเผด็จการสืบทอดอำนาจ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีทำรัฐประหาร เนื่องจากบ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤต หากไม่ออกมาปัญหาก็ไม่จบ ประชาชนจึงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำถูกต้อง และพรรคพลังประชารัฐยังได้คะแนนถึง 8 ล้านเสียง จึงมองว่าประเด็นที่ฝ่ายค้านตั้งมาไม่มีน้ำหนัก
ขณะที่ข้อสังเกตว่า กลุ่มสามมิตรกลับมารวมตัวกัน เพื่อแสดงอำนาจต่อรอง หากปรับคณะรัฐมนตรีภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์กลุ่มสามมิตรในอดีตได้สำนึกผิดแล้ว การรวมตัวกันครั้งนี้เพื่อช่วยกันระดมความคิดเห็นและให้การบ้าน แล้วจะรวบรวมเสนอที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าไม่มีการแตกแยกภายในพรรค แต่เป็นการรวมตัวกันเพื่อเสริมให้กับพรรค ไม่ได้ส่งสัญญาณไปถึงการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งต่อไป เมื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น กลุ่มสามมิตรก็จะสลายไปเหมือนเดิม
ส่วนความมั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาล นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาให้ความชัดเจนแล้ว ว่าจะช่วยหากเกิดกรณีฝ่ายค้านอภิปรายนอกประเด็น ส่วนกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ จะเข้าร่วมหารือการประชุมวันนี้ด้วยนั้น นายสุริยะ มั่นใจว่า ประเด็นเศรษฐกิจคงไม่น่าหนักใจ เพราะนายกรัฐมนตรีได้สั่งการบ้านอยู่แล้ว แต่ที่สำคัญคือประเด็นทางการเมือง ซึ่ง ส.ส.ต้องช่วยกัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ทั้งรัฐมนตรี และ ส.ส. ต้องเตรียมตัวให้พร้อม จะปล่อยล้มทั้งหมดไม่ได้ และคงไม่ใช่แค่เรื่องของพรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งการหารือวันนี้ถือว่าเป็นการเริ่มจากกลุ่มเล็กๆ ก่อน เชื่อว่าต่อไปจะพัฒนาไปสู่การหารือกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะช่วงวันที่ 22 ถึง 24 ที่ต้องมีการซักซ้อมกัน ก่อนจะเกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 25 กุมภาพันธ์
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่า การประชุมกลุ่มสามมิตรวันนี้ เพื่อต่อรองหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การรวมตัวกันครั้งนี้ไม่ได้ต่อรองอะไร ซึ่งตนเองอยู่กระทรวงยุติธรรมก็ไม่มีอะไรต่อรองอยู่แล้ว และบทบาทกลุ่มสามมิตรนับจากนี้ ก็จะไม่ได้รวมตัวอะไรกัน เว้นแต่บางกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ก็ถือว่าไม่เป็นไร
ส่วนประเด็นส่วนใหญ่ที่ฝ่ายค้านยกขึ้นมาเป็นเรื่องเก่า นายสมศักดิ์กล่าวว่า ได้แจ้งประธานสภาฯ ไปแล้ว ซึ่งประธานสภาต้องช่วยดูว่าญัตติที่เขียนไว้หากเป็นเรื่องเก่าแล้วนำไปบรรจุจะเป็นปัญหา หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะมีการประท้วงกันมากมาย หากมีการประท้วงก็ต้องเข้าใจว่าได้พยายามแล้ว และเราไม่สามารถห้ามใครได้ เพราะถือเป็นการรักษาสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย ส่วนการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งซ่อมจังหวัดกำแพงเพชร เบื้องต้นพรรคพลังประชารัฐได้เบอร์ 1 ส่วนพรรคเพื่อไทยได้เบอร์ 3 โดยจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกสัปดาห์หน้า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า การรวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อให้เป็นการอภิปรายที่สมบูรณ์ ทั้งเรื่องข้อมูลและวางตัวบุคคล ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ ฝ่ายรัฐบาลก็มีหน้าที่ชี้แจงให้เข้าใจร่วมกัน เพื่อจะได้ร่วมงานกันได้ในอนาคต ซึ่งตนเองและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมาร่วมประชุมครั้งนี้ ไม่ได้ให้นโยบายอะไร แต่มาเพื่อให้กำลังใจ เพราะตนเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องที่ไม่ได้ติดเป็นหนึ่งในบุคคลที่ถูกอภิปรายเรื่องเศรษฐกิจ นายสมคิด เชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะตอบได้ทุกคำถามอยู่แล้ว และกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็สามารถชี้แจงช่วยนายกรัฐมนตรีได้เป็นปกติ นายกรัฐมนตรีมีข้อมูลอยู่ในหัวอยู่แล้ว กระทรวงการคลัง และกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ต้องเอาข้อมูลมาช่วยเพื่อตอบให้เข้าใจกัน ส่วนจะให้ตนเองช่วยชี้แจงหรือไม่ นายกรัฐมนตรียังไม่มอบหมายให้ใครชี้แจง แต่คนที่เกี่ยวข้องก็ควรจะชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะผู้บริหารสูงสุดดูเรื่องนโยบาย ส่วนการขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกระทรวง
นายอุตตม สาวนายน รมว.กระทรวงการคลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ในส่วนของพรรคมีการเตรียมตัวกันเต็มที่ ไม่ใช่เพียงกลุ่มสามมิตรเท่านั้น แต่ทุกกลุ่มจะมีการประสานกัน รวมถึงประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย และเริ่มดำเนินการแล้ว
ส่วนการประชุมกลุ่มสามมิตรวันนี้ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องทำด้วยกันทั้งหมด เมื่อมีการพบปะหารือกันกับกลุ่มนี้แล้ว ก็คงจะมีการหารือกับกลุ่มอื่นอีก และคงจะมีการหารือรพร้อมกัน ยืนยันว่าการรวมตัวกันครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการต่อรองหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเพียงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น