วันนี้ (11 ก.พ.2563) สำนักงาน กสทช. ได้เชิญผู้ประกอบการและสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวและข้อมูลเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นใน จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 8-9 ก.พ.2563 ที่ปรากฎว่า สื่อมวลชนบางรายได้นำเสนอรายการข่าว ด้วยรูปแบบการรายงานสด Live สด รายงานสถานการณ์ และข้อมูลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น การรายงานข่าวแบบต่อเนื่อง การรายงานข่าวซ้ำกันหลายครั้ง เป็นต้น
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน ความปลอดภัย และความตึงเครียดของสังคมและประชาชนในบริเวณโดยรอบ ตลอดจนผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบได้
กสทช. พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ กล่าวว่า การนำเสนอข่าวและข้อมูลเหตุการณ์ดังกล่าว จำเป็นที่สื่อมวลชนต้องมีองค์ความรู้ในการพิจารณาคัดกรองข้อมูล และข้อเท็จจริงที่สมควรแก่การนำเสนอ หากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวและข้อมูลโดยขาดองค์ความรู้ การนำเสนอข่าวนั้นอาจเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงทำให้ผู้กระทำความผิดทราบถึงแผนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้ นอกจากนี้อาจส่งผลกระทบต่อสังคม เช่น ทำให้ผู้กระทำความผิดกลายเป็น “ฮีโร่” และอาจทำให้เด็กและเยาวชนซึมซับเรื่องความรุนแรงเห็นเป็นเรื่องปกติ ส่งผลกระทบต่อวิธีคิดและพฤติกรรมในระยะยาว
กสทช. ได้เล็งเห็นความสำคัญของการนำเสนอข่าวและข้อมูลที่เกิดขึ้น จึงจะจัดทำแนวทาง การนำเสนอข่าว และข้อมูลในลักษณะดังกล่าวในระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งมีมาตรการลงโทษที่เข้มข้นมากขึ้น เช่น การระงับการออกอากาศรายการในทันที ที่เห็นว่ารายการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความปลอดภัยของประชาชน ตลอดจนผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน พร้อมทั้งจัดทำบทลงโทษด้านอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา กสทช. ได้ดำเนินมาตรการกำกับดูแลผู้ประกอบกิจการและสื่อมวลขนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดและ กสทช. จะดำเนินการต่อสื่อมวลชนผู้กระทำการอันขัดต่อหลักเกณฑ์การเป็นผู้รับใบอนุญาตของกสทช. ให้เป็นบรรทัดฐานของการนำเสนอข่าวและข้อมูลของสื่อมวลชน ทั้งนี้ กสทข.จะเร่งรัดตำเนินการให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และจะแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สังคมและประชาชนได้ทราบต่อไป