ก.แรงงาน ห่วงลูกจ้างจีเอ็ม เตรียมตำแหน่งว่างรองรับ

วันนี้ (18 ก.พ.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้างกรณี บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม จะยุติการจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทยภายในสิ้นปี 2563 โดยเกรทวอล มอเตอร์ส จะซื้อศูนย์การผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ของจีเอ็มประเทศไทยใน จ.ระยอง จึงมอบหมายให้นายจักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ จ.ระยอง โดยมีนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน, นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือลูกจ้างให้ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครองตามกฎหมาย

ลูกจ้าง "จีเอ็ม" ไม่ได้รับโอนเข้าบริษัทใหม่

ภาพ : กระทรวงแรงงาน

ภาพ : กระทรวงแรงงาน

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดระยอง พบว่าบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง ประกอบกิจการประกอบรถยนต์เชฟโรเลต มีลูกจ้างประมาณ 1,100 คน และบริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส เพาเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จำกัด ในนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด ประกอบกิจการผลิตเครื่องยนต์ มีลูกจ้างประมาณ 400 คน รวมลูกจ้างทั้ง 2 บริษัทประมาณ 1,500 คน กรณีที่บริษัททั้งสองยุติการจำหน่ายรถยนต์เชฟโรเลตในประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2563 โดยขายกิจการให้กับ บริษัท เกรท วอล มอเตอร์ส จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์เอสยูวีและรถปิคอัพรายใหญ่ของประเทศจีน ซึ่งนายจ้างใหม่มิได้รับโอนลูกจ้างแต่อย่างใดและยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการรับสมัครลูกจ้างกลุ่มเดิมเข้าทำงานแค่ไหนเพียงใด

ทั้งนี้ บริษัททั้ง 2 แห่งได้เลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมดประมาณ 1,500 คน ซึ่งในปัจจุบันไม่มีลูกจ้างรับเหมาค่าแรง โดยมีแผนกำหนดการเลิกจ้างในเบื้องต้น จะเลิกจ้างลูกจ้างในส่วนของการผลิตชิ้นส่วน ปลายเดือน มิ.ย.2563 เลิกจ้างลูกจ้างในส่วนของเครื่องยนต์ ปลายเดือน ต.ค.2563 และเลิกจ้างลูกจ้างในส่วนของงานสนันสนุนในปลายปี 2563

"จีเอ็ม" พร้อมจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย

นายจักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการหารือกับผู้แทนบริษัทฯ กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะบูรณาการการทำงานตามภารกิจ โดยบริษัทฯ จะจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน นอกจากนี้ จะจ่ายเงินเพิ่มให้ลูกจ้างเป็นเวลาอีก 4 เดือน ทางด้านหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะให้การดูแลคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ขึ้นทะเบียนว่างงาน การให้บริการจัดหางาน การพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ ในส่วนของตำแหน่งงานได้ประสานให้จัดหางานจังหวัดและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่อีอีซี ซึ่งประกอบด้วย จ.ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือดูแลลูกจ้างของทั้ง 2 บริษัทที่มีจำนวนกว่า 1,500 คน

เบื้องต้น ได้เตรียมตำแหน่งงานว่างทั่วประเทศที่เกี่ยวกับยานยนต์ไว้แล้วจำนวน 15,132 อัตรา ส่วนใหญ่เป็นแรงงานด้านการผลิต ช่างซ่อมเครื่องจักรกลและยานยนต์อื่นๆ ช่างซ่อมยานยนต์ ช่างเทคนิควิศวกรรม และวิศวกรด้านยานยนต์ เป็นต้น ส่วนตำแหน่งงานว่าง 3 จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) แยกเป็น จ.ฉะเชิงเทรา 660 คน ชลบุรี 643 คน และระยอง 1,233 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,536 คน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกจ้างที่ได้รัยผลกระทบให้ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครองตามกฎหมายต่อไป