รฟท.ชี้แจงระบบประแจขัดข้องรถไฟชนกันที่ จ.ราชบุรี

เศรษฐกิจ
25 ก.พ. 63
17:16
2,681
Logo Thai PBS
รฟท.ชี้แจงระบบประแจขัดข้องรถไฟชนกันที่ จ.ราชบุรี
รฟท.ระบุกรณีรถด่วนขบวนพิเศษชนกับรถสินค้าคอนเทนเนอร์ ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากคนหรือระบบ แต่จากการสันนิษฐาน เบื้องต้นเกิดจากระบบประแจขัดข้อง เนื่องจากอยู่ระหว่างการก่อสร้างรถไฟทางคู่

วันนี้ (25 ก.พ.2563) นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงกรณีอุบัติเหตุรถไฟขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ที่ 722 (หาดใหญ่-บางซื่อ) ชนกับขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 37 (กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก) บริเวณสถานีปากท่อ จ.ราชบุรี เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.)

 

จากการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเวลา 18.40 น. ของวันที่ (24 ก.พ.) ได้รับแจ้งจากผังควบคุมการเดินรถหัวหินว่า เกิดอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนกัน ขณะที่ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 (กรุงเทพ - สุไหง โก-ลก) เข้าจอดรอทางอยู่บริเวณทางหลีกที่ 2 เพื่อรอหลีกขบวนรถสินค้าเปล่า (คอนเทนเนอร์) ขบวนที่ 722 (ชุมทางหาดใหญ่-บางซื่อ) ที่จะต้องวิ่งผ่านสถานีปากท่อ แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ขบวนรถสินค้าที่ 722 ได้วิ่งเข้าไปชนกับขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 ที่จอดอยู่ในทางหลีก ทำให้ขบวนรถ 722 หัวรถจักรดีเซล 4210 ตกราง และรถพ่วงบรรทุกตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ติดกับรถจักรจำนวน 5 คัน ตกรางทุกเพลาทุกล้อ สำหรับขบวนรถที่ 37 ตู้รถชั้น 3 ติดกับหัวรถจักรได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ทำการยกขบวนรถที่ตกรางได้แล้ว และสามารถเปิดทางเดินรถระหว่างสถานีปากท่อ-บ่อตะคร้อ และปากท่อ-บางเค็ม ได้เมื่อเวลา 01.45 น. ของเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

 

 

นายวรวุฒิ กล่าวว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นระบบทางเดี่ยว ซึ่งตามปกติขบวนรถไฟไม่สามารถหลีกทางกันบริเวณกลางทางได้ โดยต้องให้รถขบวนหนึ่งจอดรอก่อนเพื่อเข้าทางหลีก ซึ่งตามปกติระบบประแจจะเป็นระบบไฟฟ้า แต่ขณะนี้เป็นช่วงระหว่างก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทำให้งดใช้ระบบประแจไฟฟ้าชั่วคราว

ขณะที่การก่อสร้างมีโอกาสมีโอกาสเกิดเหตุจึงสั่งการให้ผู้รับเหมาใช้ความระมัดระวัง ส่วนกรณีนี้จะเป็นความผิดของพนักงานหรือเกิดจากระบบทางเทคนิค ยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากต้องรอคณะกรรมการเหตุอันตรายสรุปอีกครั้ง ขณะเดียวกันในเรื่องของการประเมินความเสียหายก็ยังไม่สามารถประเมินได้เช่นกัน

 

 

ทั้งนี้ ขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 722 เป็นตู้คอนเทนเนอร์เปล่า มีรถพ่วงในขบวน จำนวน 25 แคร่ ซึ่งเป็นของบริษัท ไทยเบฟ 12 แคร่ และบริษัท ทีพีไอ 13 แคร่ สำหรับค่าเสียหายก็จะเป็นไปตามมาตรฐานการรับประกันภัยของการขนส่งสินค้าทั่วไป

สำหรับผู้บาดเจ็บมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นผู้โดยสาร 40 คน และเป็นพนักงานการรถไฟบาดเจ็บ 4 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้รับบัตรเจ็บมีเพียงหนึ่งรายที่ยังคงรักษาอยู่ในโรงพยาบาลส่วนบุคคลที่เหลือ ได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้นและส่งกลับบ้านแล้ว

การรถไฟฯ จะรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยออกหนังสือรับรองให้กับโรงพยาบาลเพื่อเรียกเก็บเงินจาก รฟท. กรณีผู้บาดเจ็บต้องไปรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่ต่างๆ ส่วนผู้บาดเจ็บต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา สามารถเลือกเดินทางโดยรถไฟ หรือพาหนะอื่น รฟท.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง สำหรับผู้โดยสารกรณีทรัพย์สินเสียหายจะมีคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาค่าเสียหายตามสมควรต่อไป

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง