ผู้พิพากษา "คณากร" ฆ่าตัวอีกครั้ง ด้วยวิธีรุนแรง อาการสาหัส

อาชญากรรม
7 มี.ค. 63
10:17
11,589
Logo Thai PBS
ผู้พิพากษา "คณากร" ฆ่าตัวอีกครั้ง ด้วยวิธีรุนแรง อาการสาหัส
สลดผู้พิพากษาฯ ชื่อดัง ยิงตัวเองซ้ำอีกครั้งในบ้านพักที่ จ.เชียงใหม่ อาการสาหัส หลังจากเคยมีเรื่องขัดแย้งในการทำงานและยิงตัวเองมาแล้ว เมื่อเดือน ต.ค.2562 ก่อนถูกย้ายไปช่วยราชการที่ จ.เชียงใหม่

วันนี้ (7 มี.ค.2563) เวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวนสภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุคนยิงตัวเอง ที่บ้านเลขที่ 90/61-62 หมู่บ้านกาญกนกวิลล์ 2 ต.สันปูเลย จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพมูลนิธิสว่างสำเร็จเชียงใหม่ รถพยาบาลรพ.ดอยสะเก็ด

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้าน มีร่างของชายคนหนึ่ง ทราบภายหลัง นายคณากร เพียรชนะ อายุ 50 ปี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลชั้นต้น ในศาลจังหวัดยะลา ช่วยราชการ ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 จ.เชียงใหม่ มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัส และมีอาวุธปืนชนิดแม็กกาซีน ตกอยู่ 1 กระบอก จึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่ง รพ.แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่

เบื้องต้นทราบจากมารดาผู้บาดเจ็บว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเช้าของวันเดียวกัน ได้ไปส่งหลานที่โรงเรียน โดยมีนายคณากร อยู่บ้านเพียงลำพัง เมื่อกลับเข้าบ้านพบว่า ถูกยิงนอนอยู่กับพื้น คาดว่ามานั่งเล่นที่เก้าอี้หน้าบ้าน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเหตุดังกล่าว ส่วนมูลเหตุการยิงตัวเองยังไม่ทราบอยู่ระหว่างการสอบสวน

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา เพิ่งได้รับแจ้งว่านายคณากร ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในบ้านพักที่ จ.เชียงใหม่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างที่ภรรยาไปส่งลูกที่โรงเรียนโดยกระสุนเข้าบริเวณหน้าอก เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่ง รพ.ดอยสะเก็ดทันที ก่อนจะถูกส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่ รพ.แมคคอร์มิค จ.เชียงใหม่

ขณะยังไม่ทราบรายละเอียดที่แท้จริงของการยิงตัวเองครั้งนี้ แต่ประธานศาลฎีกาได้ทราบเรื่องและมีความห่วงใยให้เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา นายคณากร ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า คณากร ตุลาคม เป็นเอกสาร 3 แผ่น

 

 

สำหรับข้อความในจดหมายที่นายคณากรเขียนทิ้งไว้ ระบุว่า
วันที่ 5 มีนาคม 2563
เรียนเพื่อนๆ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก
เรื่องจดหมายลา

สืบเนื่องจากผม นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ใช้อาวุธปืนยิงตนเองในห้องพิจารณาคดีที่ 4 ที่ศาลจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ทั้งแถลงการณ์ผ่านสื่อออนไลน์แจ้งให้ประชาชน ทราบถึงการที่ นายเพิ่มศักดิ์ สายสีทอง อธิบดีผู้พิพากษาภาค 6 แทรกแซงผลคำพิพากษาที่ผม เป็นเจ้าของสำนวนรายละเอียดตามคำแถลงการณ์ 25 หน้าของผม ซึ่งคงได้อ่านกันแล้ว

ต่อมาผมถูกศาลยุติธรรมตั้งกรรมการสอบสวน และยังถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา เป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ซึ่งผมเชื่อว่าต้องถูกลงโทษออกจากราชการเป็นแน่ ทั้งการดำเนินคดีกับตัวผมเพิ่งจะเริ่มต้นการสูญเสียหน้าที่การงานที่รักนั้น คือการสูญเสียตัวตนทั้งกลับกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง สภาพร่างกายและจิตใจของผม ไม่อาจรับไหวเต็มไปด้วยความทุกข์ เส้นทางชีวิตของผมในชาตินี้ได้ขาดลงแล้ว

ผมขอยืนยันกับเพื่อนๆพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านว่า สิ่งที่ทำลงไปผมทำด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ต้องการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนและไม่เสียใจที่ได้กระทำผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน

ในอดีตที่เราใช้รัฐธรรมนูญพ.ศ.2540 ที่ถูกร่างขึ้นโดยสสร. ประชาชนและนักวิชาการทั้งหลายต่างยอมรับว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดเท่าที่ประเทศเราเคยมีมา ท่านคงสงสัยว่า ขณะใช้รัฐธรรมนูญดังกล่าวทำไมจึงไม่ให้มีการตรวจร่างคำพิพากษาในศาลชั้นต้นเพราะอะไรหรือสสร. รู้ว่าการตรวจร่างคำพิพากษาในศาลชั้นต้นอาจเปิดโอกาสให้มีการแทรกแซงผลคำพิพากษาโดยอธิบดีผู้พิพากษาภาค

ขออนุญาตถามเพื่อนๆ พี่น้องประชาชนชาวไทยง่ายๆ ว่า สิ่งที่ผมทำลงไปจนถูกสอบวินัยและตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญานี้ท่านพบความชั่วหรือความเลวอยู่ในการกระทำของผมบ้างหรือไม่ขอทุกท่านตอบในใจเบาๆก็พอส่วนผมรู้คำตอบมาตั้งแต่ต้นแล้วเสียดายที่ท่านไม่ใช่ผู้ตัดสิน

ในวันที่ 4 ตุลาคม 2562 ผมไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดแต่วันนั้นสวรรค์ทรงเมตตาให้ผมมีชีวิตอยู่ต่อเข้าใจว่าทรงมีพระประสงค์ให้มาอยู่กับครอบครัวสักระยะหนึ่งเท่านั้น ผมจึงจัดการซ่อมแซมแต่งบ้านบางส่วนให้เรียบร้อยขึ้นเพื่อให้สองแม่ลูกอยู่อย่างสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้นสอนลูกให้เข้มแข็งสอนให้เป็นคนดีว่า “คนดีคือคนที่ทำในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อตนเองผู้อื่นและประชาชนภายในกรอบของศีลธรรม”

วันที่ 6-7 มีนาคม 2563 เป็นวันดีลูกปิดเทอมได้หนึ่งสัปดาห์ สมควรแก่เวลา ก่อนหน้านี้ฝึกดับขันธ์บางส่วนมาก่อนแล้ว ดับได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ยังดีกว่าคับไม่ลง จึงตัดใจดับขันธ์ทั้งห้าด้วยกำลัง

ชีวิตเป็นเพียงแค่การเดินทางร่างกายที่แท้ไม่ใช่ของเรา ท้ายที่สุดย่อมเสื่อมสภาพกลับไปเป็นธาตุทั้งสี่การพลัดพรากจากหน้าที่การงานหรือคนที่รักก็เช่นกันท้ายที่สุดย่อมต้องจากเหลือไว้แต่ความดีในความทรงจำของผู้อื่นเพื่อดับทุกข์จึงขอลาจากไปในเวลานี้แม้จะก่อนเวลาอันควร

ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ทุกท่านลาก่อน
นายคณากร เพียรชนะ
ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลาฯ และผู้ต้องหา

ปล. ท่านที่เมตตาผมท่านสามารถส่งวิญญาณผมให้ไปสู่สุคติได้
โดยให้ทุนการศึกษาแก่ลูกของผมที่
บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นายคณากร เพียรชนะ เลขบัญชี 714-236993-0

 


นอกจากนี้มีเอกสารอีก 1 ฉบับ เขียนข้อความว่า

ผมไม่ใช่นักสู้ผู้เก่งกาจเป็นเพียงผู้เสียสละ
ขอยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไป
ผมทำหัวใจที่บริสุทธิ์ เพื่อให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน
จากผู้พิพากษาสู่ผู้ต้องหา ทั้งถูกตั้งกรรมการสอบ
เส้นทางชีวิตของผมบนโลกนี้ขาดลงแล้ว
ผมขอลิขิตชีวิตตัวเอง
โดยการจากไป
ใจนี้เหลือเพียงความสงบและความรัก
ห่วงเพียงลูกที่อยู่ในวัยเรียน
ร่วมส่งวิญญาณผมให้ไปสู่สุคติได้
โดยช่วยเหลือเยียวยาให้ทุนการศึกษาลูกผมที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 714-236993-0
ชื่อบัญชีนายคุณากร เพียรชนะ
ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ทุกท่าน ลาก่อน.

สำหรับ นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาลชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ถูกย้ายไปช่วยราชการ ในกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5 จ.เชียงใหม่ หลังก่อเหตุยิงตัวเองภายในศาลจังหวัดยะลา ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.2562 ที่ผ่านมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง