เปิดสถานที่ "กักตัว" คนไทยกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง COVID-19

สังคม
7 มี.ค. 63
13:13
16,585
Logo Thai PBS
เปิดสถานที่ "กักตัว" คนไทยกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง COVID-19
หลายจังหวัดกำหนดพื้นที่และสถานที่ที่จะใช้กักตัวแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 แล้ว หลังจากรัฐบาลสั่งการให้ท้องถิ่นหาที่รองรับ

หลังจากรัฐบาลสั่งการให้ท้องถิ่นหามาตรการรองรับแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ขณะนี้มีหลายจังหวัดกำหนดพื้นที่และสถานที่ที่จะใช้กักตัวแรงงานกลุ่มดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

จังหวัดอุดรธานี

เตรียมสถานที่ไว้ 4 แห่ง ประกอบด้วยพื้นที่ของกรมชลประทานและค่ายทหาร จุดหลักคือภายในโรงนอนทหาร กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 ค่ายยุทธศิลป์ประสิทธิ์ ถนนมิตรภาพ ตำบลโนนสูง อำเภอเมืองอุดรธานี

จังหวัดอุบลราชธานี

จัดที่พักศูนย์ฝึกการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิปัญญาท้องถิ่น ตั้งอยู่ในค่ายสรรพสิทธิประสงค์ เป็นสถานที่รองรับแรงงานที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยศูนย์แห่งนี้ มีอาคารที่พักรวมทั้งหอประชุมที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้ 60-120 คน ซึ่งทันทีที่เดินทางกลับจะนำตัวมาที่นี่เพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน

จังหวัดบุรีรัมย์

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ กำหนดสถานที่ไว้ 3 แห่งคือ โรงพยาบาลโนนสุวรรณ กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก และมณฑลทหารบกที่ 26 ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้เดินทางมาจากประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและมีอาการที่จะต้องเข้ารับการรักษาแต่อย่างใด

จังหวัดนครราชสีมา

กองทัพภาคที่ 2 ได้กำหนดให้ที่พักในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองพันทหารเสนารักษ์ เป็นจุดกักตัว ใช้อาคารที่พักภายในกองพันทหารเสนารักษ์ที่ 22 และอาคารของกองพันทหารเสนารักษ์ที่ 3 อาคารที่จัดเตรียมไว้สามารถรองรับได้อาคารละ 80 คน รวม 160 คน ซึ่งจะมีการจัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ดูแลความเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง 

จังหวัดเลย

มีการสำรวจตัวเลขแรงงานที่เตรียมเดินทางกลับมายังภูมิลำเนากว่า 80 คน จึงเตรียมสถานที่ไว้ 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลค่ายศรีสองรัก , กองร้อย อส.จังหวัดเลย และ หน่วยควบคุมโรคติดต่อ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบว่ามีบุคคลที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงให้แจ้งมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหรือผู้นำชุมชนภายใน 3 ชั่วโมงเพื่อเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอน

จังหวัดสุรินทร์

กำหนดให้โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน เป็นสถานที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงทั้ง 7 คน ที่กลับจากประเทศเกาหลีใต้ ทั้งหมดยังไม่มีอาการโรค COVID-19 มีเพียงเด็กเล็ก 1 คน ที่มีอาการไข้ แต่จากการสอบสวนโรคสาเหตุ ทราบว่าเด็กเพิ่งได้รับวัคซีนตามวงรอบปกติ จึงได้แยกตัวเด็กมาอยู่ในความดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลสุรินทร์อย่างใกล้ชิด

จังหวัดขอนแก่น

เตรียมสถานที่เพื่อใช้รองรับกลุ่มเสี่ยงที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวน 4 แห่งคือ พุทธมณฑลอีสาน , กองร้อยอาสารักษาดินแดน , มณฑลทหารบกที่ 23 และสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับผู้ที่เข้าสู่การกักตัวเพื่อควบคุมโรคได้ประมาณ 1,000 คน และเป็นไปตามข้อกำหนดของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข

จังหวัดมุกดาหาร

เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมสถานที่ภายในอาคารรวมใจ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บ้านดานคำ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร เพื่อเป็นสถานที่ในการเฝ้าระวังและสังเกตุการณ์ของแรงงานไทยและผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งอาคารดังกล่าวอยู่ห่างจากชุมชน เป็นอาคาร 2 ชั้น สามารถแบ่งแยกสัดส่วนชายหญิง มีรั้วรอบขอบชิดและอากาศถ่ายเทสะดวก และจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและทีมแพทย์ตรวจอาการอย่างใกล้ชิด

จังหวัดพิษณุโลก

จัดสถานที่รองรับ 2 จุด คือค่ายสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ รองรับได้ประมาณ 100 คน และค่ายสฤษดิ์เสนา รองรับได้ 50 คน

จังหวัดภูเก็ต

คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต มีมติกำหนดพื้นที่สำหรับแยกกักเพื่อสังเกตอาการของผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี ไว้ 4 แห่งคือ วิทยาลัยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วิทยาเขตภูเก็ต ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง, บ้านพักสวัสดิการโครงการชลประทานเขื่อนบางวาด ตำบลกะทู้, บ้านพักอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตำบลสาคู และค่ายลูกเสือจังหวัดภูเก็ต ตำบลรัษฎา ซึ่งสามารถรองรับผู้ที่เข้ารับการกักตัวได้กว่า 400 คน พร้อมให้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อโควิด-19 ระดับอำเภอทั้ง 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองภูเก็ต ถลางและกะทู้

จังหวัดเพชรบุรี

หลังแนวโน้มว่าจะใช้โรงแรมทหารหาดจอมพล ริมทะเลหาดเจ้าสำราญ เป็นสถานที่กักตัวแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ ล่าสุดมี 12 องค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและท้องถิ่น จ.เพชรบุรี นำโดยประธานหอการค้าจังหวัด ออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะกักตัวบริเวณดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าจุดนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบเปิด อาจเกิดผลกระทบตามมา

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง