วันนี้ (9 มี.ค.2563) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ บก.ปส.3 จับผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลางเป็นยาอี (Ecstasy) จำนวน 20,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกล่องพัสดุจากต่างประเทศส่งเข้ามาในไทย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นการขยายผลจากการตรวจยึดกล่องพัสดุผ่านด่านศุลกากรที่ส่งมาจากต่างประเทศผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ตามโครงการ AITF
ยาเสพติดดังกล่าวถูกส่งมาจากประเทศเยอรมนี นอกจากนั้นยังพบยาอีซ่อนในถุงขนมจำนวน 7,300 เม็ด ต้นทางมาจากประเทศเยอรมนีเช่นกัน ส่งมาให้กับลูกค้าในไทย ตำรวจจึงขยายผลไปจับผู้ต้องหาที่สั่งของดังกล่าวพบผู้ต้องหาอยู่ย่านเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ และเมื่อไปตรวจสอบที่ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งก็พบกัญชา และอุปกรณ์การเสพอีกจำนวนหนึ่งจึงคุมตัวมาสอบสวนและรับสารภาพว่า สั่งยาเสพติดผ่านทางเว็บไซต์ใต้ดิน (ดาร์กเว็บ) และใช้เงินสกุลบิทคอยน์ สั่งซื้อยาเสพติด
อีกคดีตำรวจจับผู้ต้องหาสัญชาติรัสเซีย ขณะมารับกล่องพัสดุที่ส่งมาจากประเทศเยอรมนี ที่ตำรวจตรวจพบที่ด่านศุลกากรหลังจากสั่งนำเข้ามาจึงขยายผลมาจับตามที่อยู่บนกล่องซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมย่านพญาไท เมื่อพบผู้ต้องหาแสดงตัวมารับพัสดุก็พบภายในกล่องมียาอี 1,500 เม็ด ซ่อนอยู่ในถุงเมล็ดกาแฟคั่ว ส่วนบนห้องพักก็พบโคเคนอีก 60 กรัม จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดี
พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. เปิดเผยว่า พัสดุทั้งหมดนี้ไม่ใช่ชิ้นแรกที่ตำรวจตรวจพบ เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2563 ถึงปัจจุบัน พบมีพัสดุที่ส่งมาจากประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และเนเธอร์แลนด์ มาแล้วกว่า 20 ครั้ง ซึ่งก็ยอมรับว่า น่าจะมีหลุดรอดไปอีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นยาอีซึ่งเป็นผลมาจากการเฝ้าระวังการนำยาเสพติดเข้าในไทยหลายช่องทางโดยที่ผ่านมาทางการไทยได้ประสานงานกับประเทศต้นทางกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่แล้ว แต่บางรายสามารถสืบสวนจนสามารถจับและยึดของกลางได้เอง ส่วนยาอีก็เป็นยาเสพติดอีกชนิดหนึ่งที่กำลังเฝ้าระวังอยู่ และอยู่ระหว่างการพูดคุยกับทางเยอรมนีว่า เหตุใดจึงมีการส่งเข้ามาทางนี้มากขึ้น และคาดว่าถูกนำไปใช้ในสถานบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ หรือใช้ในกลุ่มชาวต่างชาติเนื่องจากยาเสพติดชนิดนี้แหล่งผลิตอยู่ที่ทวีปยุโรป และมักนิยมใช้ในชาวต่างชาติ
ขณะที่นายเดชา ชุมไชโย ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 3 สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร เปิดเผยว่า ทางกรมศุลกากรไม่ได้ตรวจสอบเฉพาะประเทศเยอรมนี แต่ได้ตรวจสอบและเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศผ่านทุกช่องทางทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยมีหน่วยคัดกรองเฝ้าระวังอยู่ ส่วนยาอีที่เข้ามาในไทยมากขึ้นในช่วงนี้ ก็คาดว่าเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญ และตั้งแต่ต้นปีก็พบการซุกซ่อนมาในหลายรูปแบบ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลกับทางการเยอรมนีเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และล่าสุดพบพัสดุต้องสงสัยที่รอการตรวจสอบอีก 6 กล่อง ที่ส่งมาจากประเทศเยอรมนีที่คาดว่า ภายในจะมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผล
ขณะเดียวกัน ตำรวจ บก.สกส. และ บก.ปส.3 บช.ปส. จับผู้ต้องหาที่ลักลอบขนยาบ้า 5.3 ล้านเม็ด มาจาก จ.เชียงใหม่ ใส่รถกระบะติดโครงหลังคาซุกซ่อนมากับกระสอบอาหารสัตว์ เตรียมนำส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง หลังจากสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาคนนี้และพวกรวม 3 คนไปรับยาเสพติดใน จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งรถยนต์ขับมาถึง จ.นครสวรรค์ ตำรวจได้นำเข้าตรวจเอ็กซเรย์จึงพบกระสอบต้องสงสัย และเมื่อตรวจสอบก็พบยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด ผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาแล้ว 4 ครั้ง อีกคดีตำรวจขับรถยนต์ไล่ล่ารถยนต์คันหนึ่งที่พบว่า ขนกัญชาเตรียมไปส่งในพื้นที่ภาคใต้และสามารถจับผู้ต้องหาได้ 2 คน ที่ จ.พัทลุง เมื่อตรวจสอบพบรถกัญชา 1,000 กิโลกรัมอยู่ในรถกระบะ จึงยึดมาตรวจสอบและดำเนินคดี