ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรากักตัวเอง 14 วัน หลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง

สังคม
17 มี.ค. 63
06:34
6,751
Logo Thai PBS
ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรากักตัวเอง 14 วัน หลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง
ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา กักตัวเอง 14 วัน หลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง หลังร่วมประชุมนายก อบจ.เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งให้ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ อบจ.ฉะเชิงเทราทุกคน งดมาทำงาน 5 วัน พร้อมให้สาธารณสุขจังหวัดเข้าควบคุมพื้นที่

วานนี้ (16 มี.ค.2563) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทราเข้าควบคุมพื้นที่ทำความสะอาด ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.ฉะเชิงเทรา) พร้อมกับพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุมโรค หลังนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ. ฉะเชิงเทรา เข้าตรวจเชื้อไวรัส COVID-19 ที่โรงพยาบาลเปาโล ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2563

ขณะที่ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา มีคำสั่งด่วนโดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค สั่งให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทราทุกคนงดมาทำงาน 5 วัน ให้ทำงานออนไลน์แทน พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเข้าควบคุมพื้นที่ทำความสะอาดที่ทำการ อบจ.ฉะเชิงเทรา พ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุมโรคและมีรายงานต่อมาว่านายระพีก็ได้ขอกักตัว 14 วัน ตามระเบียบปฏิบัติเพราะเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง หลังจากได้ประชุมร่วมกับ นายก อบจ.เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา

ขอให้ผู้ที่ใกล้ชิด เฝ้าระวังสังเกตดูอาการของตัวเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากมีอาการมที่สุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID-19 ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจ โดยละเอียดหากมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามแจ้งข่าวได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินจังหวัดฉะเชิงเทราได้ตลอด 24 ชม.

ส่วนผู้ที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับนายกิตติ ในรัศมี 2 เมตร ระหว่างวันที่ 6 - 15 มี.ค.2563 ให้กักตัวเองอยู่ห้อง ,สวมหน้ากากอนามัยและล้างมือ ,ห้ามสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น และรีบติดต่อสายด่วน CCOVID - 19 ทันทีเมื่อมีปัญหา ขณะเดียวกันเพื่อให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพทางจังหวัดจึงประกาศงดการจัดงานเทศกาลมะม่วงประจำปีนี้ งดการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ทุกท้องถิ่น และ งดจัดงานอัญเชิญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากน้ำ ระหว่างวัน 8 - 10 เม.ย.นี้


ขณะที่ ไทยพีบีเอสยังรวบรวมปฏิทินการปฏิบัติหน้าที่ของ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราก่อนที่จะประกาศกักตัวเอง หลังทราบผลตรวจว่าติดเชื้อไวรัส COIVID - 19

ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา กักกันตัวเอง 14 วัน !

- สืบเนื่องจากเคส "นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา"

- 15 มีนาคม 63 นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ประกาศผ่าน Facebook ติดเชื้อ COVID-19

- กรณีนี้มีส่วนเชื่อมโยงกับเคสของ "แมทธิว ดีน" นักแสดงชื่อดัง ซึ่งประกาศติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังไปเป็นพิธีกร ที่สนามมวย (ผลตรวจเชื้อ 13 มี.ค.63)

- วันที่เสาร์ที่ 6 มี.ค. มีมวยเวทีใหญ่ คือ ศึกลุมพินีเกียรติเพชร (รามอินทรา กรุงเทพมหานคร)

- บุคคลที่อยู่สนามมวย ในวันดังกล่าว มีทั้งเซียนมวย นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคนอื่น ๆ อีกมากมายที่ไปดูมวยวันนั้น

- หนึ่งในนั้น มี นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมชมการแข่งขันด้วย

หลังจากวันที่ 6 มี.ค.63 หลังดูมวยจบ นายกฯ อบจ.ฉะเชิงเทราไปไหนบ้าง ?

- หากย้อนเส้นทางช่วงที่ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เดินทางไปในพื้นที่ที่สาธารณะ ช่วงวันที่ 7-15 มี.ค.63 พบว่า มีการเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก รวมเกือบ 30 แห่ง

- โดยเฉพาะหลังกลับมาจากสนามมวยเพียง 1 วัน พบว่า เดินทางไปร่วมงานมงคลสมรส โดยเฉพาะวันที่ 7 มี.ค..จำนวน 6 ครั้ง ซึ่งจัดที่โรงเรียนและวัด และไปเปิดงานประจำปีที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา

วันที่ 7 มี.ค.63

- งานมงคลสมรส 3 แห่ง (ช่วงเช้า) ที่วิหารแปดเซียน , อบต.คลองนา

- ประธานเปิดงานประจำปี วัดสนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์

- ประธานเปิดงานประจำปี วัดไผ่แก้ว อ.แปลงยาว

- งานมงคลสงรส 3 แห่ง (ช่วงเย็น) ที่ รร.เบญจมราชรังสฤษฎิ์ วัดไชยธาราประชาบำรุง และ บริเวณหมู่ 5 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง

 

วันที่ 8 มี.ค.63

- ประธานเปิดงานฟุตบอลโรงเรียนลำมหาชัย

- งานอุปสมบท ในพื้นที่ ต.บางไผ่

-เดินทางเข้ากรุงเทพฯ รับเกียรติยศ คนดีต้นแบบของแผ่นดิน “พันท้ายนรสิงห์" รร.อลิซาเบท

- เดินทางกลับ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานปิดงาน "มหกรรมขนมหวาน อาหารอร่อย และของดีเมืองแปดริ้ว" มรภ.ราชนครินทร์

- ร่วมงานวันสตรีสากล อ.พนมสารคาม

วันที่ 9 มี.ค.63

- ชมรมผู้สูงอายุเข้าพบ อบจ.ฉะเชิงเทรา

วันที่ 10 มี.ค.63

- เปิดโครงการส่งเสริมฯ บทบาทของกลุ่มสตรี อบต.คลองตะเกรา

- งานอุปสมบทวัดพุทธอุดมวิหาร

- งานบวชพัทธสีมาวัด

วันที่ 11 มี.ค.63

- พบเจ้าหน้าที่จุดตรวจคัดกรอง COVID-19 อบจ.ฉะเชิงเทรา


วันที่ 12 มี.ค.63

- พบปะชาวมุสลิม สุเหร่าดอนกลาง อ.บางน้ำเปรี้ยว

- กลุ่มสมาชิก อบจ.เข้าพบ อบจ.ฉะเชิงเทรา

- ประธานเปิดหลักสูตรฯ โรคติดต่อผู้สูงอายุ อบจ.ฉะเชิงเทรา


วันที่ 13 มี.ค.63

- ไม่ปรากฎการเคลื่อนไหวใด ๆ ผ่าน Facebook

วันที่ 14 มี.ค.63

- ประธานเปิดงานสำนักปฏิบัติธรรมรวยสำราญ อ.บ้านโพธิ์

- ร่วมงานอุปสมบทที่ ร.ร.พุทธิรังสีพิบูล อ.บ้านโพธิ์

- ร่วมงานอุปสมบทที่ ร.ร.บ้านวังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา

- ร่วมงานอุปสมบทที่ ร.ร.เตรียมอุดม อ.เมืองฉะเชิงเทรา

วันที่ 15 มี.ค.63

- ประกาศผ่าน Facebook ยืนยันผลตรวจว่า ติดเชื้อไวรัส COVID-19

ทั้งนี้เมื่อทราบว่า นายกอบจ.ฉะเชิงเทรา ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดดังนี้

อบจ.ฉะเชิงเทรา

1.ประสานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา มาแนะนำการปฏิบัติตน

2.หารือระหว่างผู้บริหารท้องถิ่น และ สาธารณสุขอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา,และฝ่ายปกครอง เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน ทั้งการฉีดพ่นฆ่าเชื้อทั้งตึก อบจ.ทุกชั้น ทุกห้อง รวมถึงลูกบิดประตู ราวบันได รวมถึงสาธารณสุขอำเภอตรวจคัดกรองไข้สมาชิกอบจ.ทุกคน ไม่พบว่ามีไข้ รวมถึงให้ข้าราชการพนักงานรับผิดชอบตนเอง กักกันตัวเอง 14 วัน หลีกเลี่ยงไม่ไปตามที่สาธารณะ

3.เตรียมแผนว่าจะดำเนินการอะไรต่อไป ตามคำสั่งของ ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา

ผู้ว่าฯปรับการทำงาน- กักตัวเอง 

ขณะที่ กรณีนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ทราบว่าตนเองติดเชื้อไวรัส COVID-19 ได้ปรับรูปแบบการปฏิบัติงานหลายอย่างดังนี้

-ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา งดพบปะสื่อมวลชน โดยให้ข้อมูลผ่านการโทรศัพท์

- กักตัวเอง 14 วัน เนื่องจาก ผู้ว่าฯได้พบปะกับ นายกฯ อบจ.ที่เข้าพบที่ศาลากลางจังหวัด หารือข้อราชการร่วมกันเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ ผู้ว่าฯกักตัวเองเมื่อวานนี้ (14 มี.ค.) เป็นวันแรก

- ปรับรูปแบบการประชุมดดยใช้การวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์แทน ใช้การส่งอีเมล์ หรือ สื่อสารผ่านไลน์แทนการพบกับข้าราชการ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น

- ผู้ว่าฯ มีคำสั่งด่วนโดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค สั่งปิดสำนักงาน อบจ. 5 วัน เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตามหลัก สธ.ส่วนข้าราชการ-เจ้าหน้าที่ อบจ.ฉะเชิงเทรา กักตัวเอง 14 วันโดยให้ทำงานผ่านระบบออนไลน์แทน

สสจ.ป้องกันการระบาด

ขณะที่ สาธารณสุขจังหวัดได้ดำเนินมาตรการ เฝ้าระวังและป้องกันการระบาดเช่นกัน

- สาธารณสุขจังหวัดติดตามตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดนายก อบจ.ได้กว่า 10 คนแล้ว กำลังตามตัวบุคคลอื่นเพิ่มเติม

- ประกาศขอให้บุคคล ที่ใกล้ชิดนายกฯ อบจ. ระยะ 2 เมตร เมื่อช่วงวันที่ 6 - 15 มี.ค. รีบแจ้งให้ทางจังหวัดรับทราบ พร้อมแนะนำให้ สวมหน้ากาก,อย่าสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น

-- แนะนำ อบจ. และ บุคคลที่ทำงานในถึงแนวทางปฏิบัติตัว และ กักกันตัวเอง 14 วัน

- ช่วยฉีดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ตึก อบจ.ฉะเชิงเทรา

- ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง แนะนำการปฏิบัติตัว และ การใช้เครื่องวัดไข้แบบส่องเข้าหน้า ตามแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น วัดหลวงพ่อโสธร ซึ่งวัดไข้ทั้งนักท่องเที่ยว และ พระสงฆ์

- ประชุมวางแผนทีมงานย่อยในการเตรียมลุยงานในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อ ทั้งการสอบสวนโรค การลงพื้นที่สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านเพื่อให้ลดความตื่นตระหนก และบางคนอาจจิตตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็จะลงพื้นที่ไปพูดคุยด้วยมากขึ้น

- ขอให้ติดต่อกลับศูนย์ปฏิบัติการ COVID - 19 จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งขณะนี้ เปิดคู่สายเพิ่มเติมรวมทั้งหมด 4 เลขหมาย ได้แก่ ,094*7922525,038-511028,038-511029 และ038-511030

งดจัดงานใหญ่

นอกจากนี้ ทางจังหวัด ยังประกาศงดการงานใหญ่ประจำจังหวัด 3 งานที่ จะมีขึ้นในช่วงเดือน เม.ย.นี้ ได้แก่

1.เทศกาลมะม่วงประจำปี

2.เทศกาลสงกรานต์ทุกพื้นที่

3.งานอัญเชิญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากน้ำ ที่วัดโสธรวรารามวรมหาวิหาร ระหว่างวัน 8 - 10 เม.ย.63

ปชช.ปรับตัว 

ขณะที่ ประชาชนใน จ.ฉะเชิงเทรา มีการปรับตัวด้วยเช่นกัน

- ข้าราชการ ในส่วนงานอื่นๆ มีความตื่นตัวในการเฝ้าระวังมากขึ้น โดยดูแลตัวเองตามคำแนะนำของ ก.สาธารณสุขมาเกือบ 2 เดือน ทั้งกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ แต่การใช้ชีวิตในช่วง 1-2 วันนี้ ซึ่งมีข่าวว่า นายกอบจ.และผู้ว่าราชการจังหวัดติดเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งสร้างความตกใจให้ชาวจังหวัดฉะเชิงเทราไม่น้อย จึงทำให้หลายคนเพิ่มความระมัดระวังทั้งการซื้ออาหาร , ทำอาหารรับประทานเอง และนำเสื้อเก่ามาเย็บทำหน้ากากอนามัยเนื่องจากหน้ากากอนามัยหาซื้อยากและมีราคาแพง

- เครือข่ายประชาชน โดยเพจเรารักแปดริ้ว ตั้งกลุ่มเฉพาะเพื่อแลกเปลี่ยนแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสCOVID-19 เพื่อสื่อสารกัน ซึ่งมีทั้งการเผยแพร่ข้อมูลจากหน่วยงานราชการมา และการแจ้งปิดสถานที่

- ธ.กสิกรไทย แจ้งปิด 2 สาขาบางปะกง และสาขาฉะเชิงเทรา เพื่อฆ่าเชื้อตามหลัก สธ.หลังพบพนักงาน 2 คน ไปร่วมงานแต่งมงคลสมรสในงานเดียวกีบที่นายกฯ อบจ.เดินทางไป

ขณะที่ทีมข่าวไทยพีบีเอส สอบถามความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านมีความต้องการดังนี้

- ความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆกับ นายกฯ อบจ.ฉะเชิงเทรา ว่าติดตามได้ครบทุกคนหรือไม่ และมีจำนวนเท่าใด และขอให้เปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบ

- ต้องการให้มีการเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัด

-ต้องการให้เปิดผยพื้นที่ที่มีความเสี่ยง

-การดูแลและจัดการพื้นที่ที่นายกฯ อบจ.เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่ต่าง ๆ

- การฆ่าเชื้อ ทำความสะอาด พื้นที่ต่างๆ ให้ ประาชนรับทราบ

- การจัดหาหน้ากากอนามัย

- การติดตามข้อมูลของจังหวัดสามารถติดตามข้อมูลได้ในทางใดบ้าง นอกเหนือจากจากประชาสัมพันธ์จังหวัด

วัดงดกิจกรรมทางศาสนา

ขณะที่การดูแลวัด พระ และการดำเนินกิจกรรมทางศาสนา

- พระราชปริยัติสุนทร เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา มีบัญชาถึงพระสังฆาธิการ ขอให้งดรับกิจนิมนต์

- ให้เลื่อนการจัดงานวัดออกไปก่อน

- กรณีการทำบุญ - ตักบาตรให้พระสงฆ์และฆราวาสสวมหน้ากากอนามัย นั่งห่างกัน 2 ม.

ขณะที่ นายธีรพงษ์ อินทร์พันธุ์ ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีมาตรการเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 เช่นกัน

- ขอให้วัดใน จ.ฉะเชิงเทรา กว่า 300 วัด ขอให้ทุกวัดใช้มาตรการเดียวกัน

- วัดขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้สักการะเป็นจำนวนมาก ให้มีระบบป้องกันและลดควาทเสี่ยง เช่น วัดโสธรฯ ให้เหลือทางเข้า-ออก เพียงประตูใหญ่เพียงฝั่งเดียว ทางเข้าพระอุโบสถ ได้ขึงแนวเชือกทางเข้า ให้ปรชาชนและนักท่องเที่ยวที่ผ่านต้องตรวจวัดไข้ และตั้งเจลล้างมือให้บริการประชาชน

- วัดทั่วไป มีจุดติดตั้งเจลล้างมือให้ประชาชนที่เดินทางเข้าวัด

- ติดป้ายให้ข้อมูลและให้คำแนะนำเรื่อง COVIVD-19 กับประชาชนในพื้นที่วัด

- ขอประชาชนเว้นระยะห่างในการกราบไหว้พระสงฆ์อย่างน้อย 1-2 เมตร

-ขอพระสงฆ์รับกิจนิมนต์ให้น้อยลง

- ขณะที่ประชาชนขอให้เลื่อนการจัดงานบุญ งานอุปสมบททั้งที่้บานและที่วัด หรือให้จัดแบบเรียบง่ายที่สุด

ขณะที่สถานศึกษา อย่าง มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ก็ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เช่นกัน

- ม.ราชภัฎราชนครินทร์ เลื่อนจัดกิจกรรมทุกอย่างออกไปถึง 24 มี.ค.63 รวมถึงสอบปลายภาคของนักศึกษา

- บุคลากรให้นำงานไปปฏิบัติงานที่บ้าน ที่พักอาศัย ให้หัวหน้าหน่วยงานมอบหมายงานตามความเหมาะสม

- หน่วยงานที่มีหน้าที่บริการ เช่น งานประชาสัมพันธ์ งานทะเบียน หน่วยงานคลัง ให้จัดเวรเพื่อมาปฏิบัติงานตามสมควร และให้กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรโดยเคร่งครัด

- กรณีเร่งด่วนต้องพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา

- ขอความร่วมมือเปิดเครื่องมือสื่อสารไว้เพื่อประสานงาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง