วัคซีนต้าน COVID-19 จะพร้อมเมื่อไหร่ ?

ต่างประเทศ
18 มี.ค. 63
17:16
13,253
Logo Thai PBS
วัคซีนต้าน COVID-19 จะพร้อมเมื่อไหร่ ?
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้หลายประเทศทั่วโลกเร่งพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 แข่งกับเวลา ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แล้ววัคซีนต้าน COVID-19 จะพร้อมใช้งานเมื่อไหร่ ?

วันนี้ (18 มี.ค.2563) จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อในหลายภูมิภาคของโลก โดย ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 200,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 7,900 คน ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มยกระดับมาตรการที่เข้มข้นเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และเริ่มมีบางประเทศพัฒนาวัคซีนเพื่อรักษาผู้ติดเชื้อแล้วอย่างต่อเนื่อง 

การทดลองในมนุษย์จะเริ่มขึ้นในเดือน เม.ย. แม้ว่าพวกเขากำลังจะทำการทดลองไปได้ด้วยดี แต่ก็มีอุปสรรคมากมายก่อนที่จะสร้างภูมิต้านทานสำหรับคนทั่วโลกได้

เดอะการ์เดี้ยน รายงานว่า ขณะนี้ บริษัท และสถาบันการศึกษา 35 แห่งทั่วโลก กำลังเร่งสร้างวัคซีน COVID-19 โดยมีอย่างน้อย 4 แห่ง เริ่มทำการทดสอบในสัตว์แล้ว ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ทันสมัยในบอสตันกำลังจะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ครั้งแรกในเดือน เม.ย.นี้

การพัฒนาวัคซีนด้วยความเร็วที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ สืบเนื่องมาจากความพยายามของจีนในการจัดลำดับสารพันธุกรรมของ Sars-CoV-2 ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิด COVID-19 โดยประเทศจีนได้แบ่งปันลำดับสารพันธุกรรมนั้นในช่วงต้นเดือน ม.ค.ทำให้กลุ่มนักวิจัยทั่วโลกสามารถเพาะเลี้ยงไวรัสที่มีชีวิตและศึกษาเส้นทางการบุกรุกเซลล์ของมนุษย์และทำให้คนป่วยได้อย่างไร


Sars-CoV-2 เป็นเชื้อโรคใหม่ในมนุษย์และการพัฒนาวัคซีนสำหรับป้องกันที่ทำจากสารพันธุกรรม RNA หรือ DNA ยังไม่เคยได้รับการพัฒนาและได้รับอนุมัติจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นการพัฒนาวัคซีน COVID-19 จะต้องได้รับการทดสอบเหมือนวัคซีนใหม่

แม้ว่าจะมีการผลักดันให้ทำสิ่งต่างๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่การพัฒนาวัคซีนในครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่ไม่สามารถใช้ทางลัดได้

วัคซีนที่ผลิตขึ้นมาเพื่อต่อต้านไวรัสอาจส่งผลกระทบต่อแต่ละบุคคลแตกต่างกัน จนทำให้ผลกระทบต่อโรคเพิ่มขึ้นได้ จึงทำให้ต้องมีการทดลองทางคลินิกเพื่อแก้ไขและกำจัดปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ Sars-CoV-2 ก็จำเป็นต้องมีการทดสอบความปลอดภัยที่เข้มงวดเป็นพิเศษเพื่อขจัดความเสี่ยงของโรคที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การทดสอบวัคซีนต้องทดสอบทางคลินิกทั้งหมด 3 ระยะ เริ่มจากทดลองกับอาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรงหลักสิบคนก่อน เพื่อดูผลข้างเคียงและความเข้ากันกับคน ก่อนจะขยับไปทดสอบกับคนหลักร้อย และทดสอบกับคนหลักพันซึ่งอาจล้มเหลวในระยะไหนก็ได้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้การรับสมัครอาสาสมัครทดสอบรับวัคซีนทุกครั้งจะต้องผ่านการอนุมัติตามกฎระเบียบ และการพัฒนาวัคซีนมักใช้เวลาหนึ่งทศวรรษหรือมากกว่านั้น Annelies Wilder-Smith ศาสตราจารย์ด้านโรคติดเชื้อเวชศาสตร์เขตร้อน ระบุว่า "เช่นเดียวกับนักฉีดวัคซีนส่วนใหญ่ ฉันไม่คิดว่าวัคซีนนี้จะพร้อมก่อน 18 เดือน” 

ไทยพีบีเอสออนไลน์ได้รวบรวมความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 สำหรับประเทศที่เริ่มมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องบางประเทศ ทั้งจากสหรัฐอเมริกา จีน อิสราเอล และ อังกฤษ

 

สหรัฐฯ ทดลองฉีดวัคซีน COVID-19 ผู้ป่วยคนแรก

สำนักข่าวซีบีเอสนิวส์ รายงานว่า ในสัปดาห์นี้มีผู้ป่วยคนแรกได้เข้าทดลองทางคลินิกสำหรับการรักษาด้วยวัคซีน COVID-19 ที่มีศักยภาพ และกำลังจะกลายเป็นก้าวสำคัญระดับโลกในการคิดค้นวิธีการรักษา โดยสถาบันวิจัย Kaiser Permanente Washington ในซีแอตเทิลได้พัฒนาวัคซีนนี้ขึ้นและเริ่มทดสอบจริงตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา

เจนนิเฟอร์ฮอลเลอร์ วัย 43 ปี ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของ บริษัท เทคโนโลยีขนาดเล็ก กลายเป็นผู้ป่วยคนแรกที่ได้รับวัคซีน COVID-19 โดยฮอลเลอร์ ระบุว่า เราทุกคนรู้สึกหมดหนทางกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสในขณะนี้ แต่วัคซีนนี้เป็นโอกาสที่น่าอัศจรรย์สำหรับฉันที่จะทำอะไรบางอย่าง และคนรอบข้างต่างคิดว่ามันเป็นเรื่องสุดยอดมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาครั้งนี้


อาสาสมัคร 45 คนที่มีอายุระหว่าง 18-55 ปี จะได้รับวัคซีน 2 โดส ในระยะเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ตามที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIH) ระบุ แอนโทนี่ ฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) ระบุว่า NIAID เป็นส่วนหนึ่งของ NIH ในการสนับสนุนเงินทุนเพื่อทำการทดลองวัคซีนนี้ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า mRNA-1273 และได้รับการพัฒนาโดย NIAID และ Moderna, Inc. ซึ่งเป็น บริษัท เทคโนโลยีชีวภาพในเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์

การหาวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วย SARS-CoV-2 นั้น เป็นเรื่องเร่งด่วนด้านสาธารณสุข การศึกษาระยะที่ 1 ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่การบรรลุเป้าหมาย

ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยของกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า แม้ทีมวิจัยและทีมแพทย์จะเร่งพัฒนาวัคซีน COVID-19 อย่างต่อเนื่อง แต่ก็อาจต้องใช้เวลา 12-18 เดือนในการทำงานจนสำเร็จ แต่เป้าหมายหลักคือการหาทางรักษาด้วยยาต้ายไวรัสที่ฆ่าเชื้อจนสามารถหายขาดจากโรคได้ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไปยังชุมชนส่วนอื่นๆ

จีนเริ่มเฟส 1 อาสาสมัคร 108 คน เตรียมทดลองวัคซีน

สำนักข่าวซีบีซี รายงานว่า จีนเริ่มต้นการทดลองศักยภาพวัคซีน COVID-19 เพื่อทดสอบความปลอดภัยในมนุษย์ท่ามกลางการแข่งขันพัฒนาวัคซีนต้านการระบาดของ COVID-19 ที่ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วทั่วโลกมากกว่า 7,000 คน โดยนักวิจัยสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารของจีน ได้รับการอนุมัติให้เปิดการทดลองทางคลินิกระยะแรกของวัคซีนที่มีศักยภาพในสัปดาห์นี้


สำหรับการทดลองทางคลินิกระยะที่ 1 ในครั้งนี้ จีนได้คัดเลือกอาสาสมัครสุขภาพดีทั้งหมด 108 คน มาเข้าร่วมเพื่อทดสอบความปลอดภัยการใช้วัคซีนในมนุษย์ โดยจะเข้าทำการทดสอบระหว่างวันที่ 16 มี.ค. - 31 ธ.ค.นี้ การทดลองจะดำเนินการโดยสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารของจีนและบริษัท เทคโนโลยีชีวภาพที่จดทะเบียนในฮ่องกง

อิสราเอลเก็บพลาสมาสร้างวัคซีนป้องกัน COVID-19

เดอะเยรูซาเลมโพสต์ รายงานว่า อาเมียร์ ลอนดอน ประธานบริหารบริษัทด้านเวชภัณฑ์ชีวภาพในอิสราเอล ระบุว่า ได้เริ่มต้นพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 จากพลาสมา โดยใช้แนวคิดดั้งเดิมที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเมื่อหายป่วยแล้วจะสร้างแอนติบอดีสำหรับป้องกันไวรัสนั้นขึ้นมา 

หากผู้ป่วย COVID-19 ที่หายแล้ว และอยู่ระหว่างการพักฟื้นสามารถบริจาคพลาสมาให้การทดลองในครั้งนี้ได้ ก็มีความเป็นไปได้ที่พลาสมานั้นจะมีแอนติบอดีสำหรับการป้องกันไวรัส COVID-19 โดยบริษัทวางแผนที่จะเก็บพลาสมาจากผู้ป่วยที่ฟื้นตัวเพื่อมาชำระแอนติบอดีให้บริสุทธิ์โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท


ขณะที่โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่บริษัทร่วมงานด้วย เนื่องจากการรักษาที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นควรที่จะให้บริการผู้ป่วยที่ป่วยหนัก ซึ่งส่งผลให้กระบวนการในการพัฒนานั้นไม่จำเป็นต้องมีการทดลองทางคลินิกที่สมบูรณ์เหมือนในกรณีของยาใหม่ ดังนั้นการพัฒนาวัคซีนจึงอาจเร่งให้เร็วขึ้นได้

แนวคิดและเทคโนโลยีได้รับการอนุมัติแล้วสำหรับไวรัสอื่นๆ หากมีพลาสมาที่เพียงพอและพลาสมานั้นมีระดับแอนติบอดีที่เพียงพอ ประมาณ 2-3 เดือน ก็คาดว่าวัคซีนพร้อมสำหรับการรักษาแล้ว

อาสาสมัครอังกฤษ 24 คน เข้าร่วมทดสอบวัคซีน

ขณะที่สำนักข่าวมิลเลอร์ อาสาสมัครชาวอังกฤษ 24 คน ที่เข้าร่วมการทดสอบทางคลินิกเพื่อพัฒนาวัคซีนต้าน COVID-19 จะได้รับเงิน 3,500 ปอนด์ แลกกับการติดเชื้อไวรัสและอาศัยอยู่ในสถานกักกันที่ศูนย์นวัตกรรม BioEnterprises แห่งควีนแมรี่ใน Whitechapel เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยห้ามพบปะผู้คนและห้ามออกกำลังกาย รวมถึงมีข้อกำหนดในการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดด้วย

อย่างไรก็ตามพวกเขาจะถูกฉีดด้วยไวรัสธรรมดา 2 สายพันธุ์ ได้แก่  0C43 และ 229E ซึ่งจะทำให้เกิดอาการระบบทางเดินหายใจที่ไม่รุนแรงเท่ากับ COVID-19 แม้ว่าไวรัสที่ใช้ในการทดสอบจะเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน แต่นักวิจัยคาดว่าวัคซีนที่พัฒนาสำเร็จแล้วจะช่วยต้านไวรัส COVID-19 ได้ 


การทดสอบนี้มีมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการค้นหาวัคซีนสำหรับต้านไวรัส COVID-19 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ารางวัลสำหรับการค้นหาวัคซีนต้าน COVID-19 จะสูงกว่า 1.6 พันล้านปอนด์ ที่ผู้ผลิตยาซาโนฟี่ ชาวฝรั่งเศสทำได้ หลังจากขายวัคซีนไข้หวัดใหญ่เมื่อปีที่แล้ว

ทั้งนี้ วัคซีนยังสามารถช่วยชีวิตคนได้มากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไวรัสกลายเป็นโรคประจำถิ่นหรือการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย เช่น ไข้หวัดใหญ่  แต่จนถึงตอนนี้ความหวังสูงสุดคือการยับยั้งโรคให้ได้มากที่สุด ซึ่งสิ่งสำคัญและควรเน้นย้ำก็ยังคงเป็น "การล้างมือให้สะอาด"

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง