วันนี้ (20 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.กัญฐนา หรือ น้ำตาล จำเลยที่ 1 และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือ ป้อนข้าว อดีตโบรเกอร์ พร้อมมารดา จำเลยที่ 2 และ 4 ตามลำดับ มาฟังคำตัดสินตามนัดของศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อรับฟังคำตัดสินในคดีปลอมและใช้เอกสารปลอมในการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ให้กับกลุ่มจำเลย รวมเกือบ 300 ล้านบาท
ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยคนสำคัญในคดี ไม่ได้เดินทางมาฟังคำตัดสินที่ศาล เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำ หลังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในคดีอุ้มพี่ชายของผู้พิพากษาคดีนี้
สำหรับคำตัดสินในคดี ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องต้องกันทุกปาก รวมถึงการสืบสวนสอบสวนนำสืบถึงพยานหลักฐานในคดีของตำรวจ มีการทำเป็นคณะทำงาน รอบคอบ น่าเชื่อถือ และพบว่าสอดคล้องต้องกันกับคำเบิกความของบรรดาพยาน ทำให้ปราศจากข้อสงสัย
ศาลจึงตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 2 และ 3 ตามฟ้อง โดยลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 ฐานปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม โทษจำคุกคนละ 4 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 หรือ พ.ต.ท.บรรยิน มีความผิด 2 กระทง รวมโทษจำคุก 8 ปี
ส่วนจำเลยที่ 4 แม่ของ น.ส.ป้อนข้าว ศาลยกฟ้อง เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำไปโดยเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจตามคำขอร้องของลูกสาว ทั้งการเปิดบัญชีซื้อหลักทรัพย์ หรือการซื้อทรัพย์สิน โดยเกิดขึ้นหลังการปลอมเอกสารสำเร็จแล้ว
สำหรับคดีนี้ เริ่มขึ้นในปี 2558 ซึ่งเกิดขึ้นหลังนายชูวงษ์ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นญาติพบความผิดปกติทางเอกสารการโอนหุ้นที่มีการทำธุรกรรมก่อนเสียชีวิตไม่นาน จึงตัดสินใจร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบ "พ.ต.ท.บรรยิน" อดีต รมช.พาณิชย์ เชื่อมโยงฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา คดีโอนหุ้น
คุมตัว "บรรยิน" พร้อมพวก ขออำนาจศาลฝากขัง วันนี้
ภรรยา "บรรยิน" มั่นใจสามีไม่ได้อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา