วันนี้ ( 23 มี.ค. 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงนั้น
มีรายงานว่าผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่สรุปแผน"ล็อกดาวน์" หรือประกาศใช้กฎหมายพิเศษ เพื่อควบคุมสถานการณ์อย่างเข้มข้นขึ้น เหตุผลหนึ่งที่ออกมาจากห้องประชุม คือตัวเลขของผู้ติดเชื้อลดลงจากเมื่อวานนี้ ประกอบกับกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ"โควิด-19" จากสนามมวยที่เฝ้าระวังอยู่นั้น ครบกำหนดการกักตัวแล้ว 14 วัน ทำให้นายกรัฐมนตรี ขอชะลอการใช้ "ยาแรง" เอาไว้ก่อน
แต่ระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคาะโต๊ะที่จะพิจารณาการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ หรือยาแรงอีกครั้งใน 2 วันข้างหน้า
หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเข้าร่วมประชุมและรายงานผลต่างๆ โดยเฉพาะตัวเลขของผู้ติดเชื้อ"โควิด-19" วันนี้..ลดลงจากเมื่อวานนี้ ประกอบกับกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อจากสนามมวย เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา กักตัวครบ 14 วันแล้ว จึงชะลอแผนการใช้กฎหมายพิเศษ หรือ การบังคับใช้ร่าง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปก่อน
สำหรับการประชุมวันนี้นายกรัฐมนตรีใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที โดยทั้งหมดเป็นช่วงเวลาของการรับฟังรายงานสรุปด้านต่างๆ ตั้งแต่ด้านการแพทย์ ด้านเศรษฐกิจ และสถานการณ์จากพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 แถลงย้ำให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ผ่าน เว็ปไซต์ของรัฐบาล และเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้า และการแถลงข่าวของ 2 ส่วนงาน คือศูนย์ที่กระทรวงสาธารณสุข เรื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อ และศูนย์ที่ทำเนียบรัฐบาล เรื่องมาตรการต่างๆ และยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องทุกวัน
โดยศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างอิงว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะใช้ยาแรง หากมีความจำเป็น แต่ก่อนตัดสินใจจะสอบถามข้อมูลอย่างรอบด้านจากทุกฝ่าย รวมถึงต้องวางแนวทางการเยียวยาทุกภาคส่วนไว้ด้วย เหตุเพราะนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงเรื่องผลกระทบที่จะตามมา