น.ส.ปีย์วรา ชุณหวงศ์ คนไทยทำงานในประเทศอิตาลี อาศัยอยู่ในเมืองมิลาน เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า ทำงานอยู่ที่บ้านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว สถานการณ์ที่อิตาลีตอนนี้ ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ พฤติกรรมของคนอิตาลี หรือแม้แต่คนชาติอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในอิตาลีเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ทุกคนตระหนักว่า เหตุการณ์มันเลวร้ายขึ้น โดยให้ความร่วมมือปรับการใช้ชีวิต เวลาออกจากบ้านทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่เวลาต่อแถวเข้าซูเปอร์มาร์เก็ต จะยืนเว้นระยะห่างจากกัน 2 เมตร
ล่าสุดอิตาลีประกาศมาตรการเพิ่มเติมว่า เราไม่สามารถเดินทางออกจากเขตที่เราพักอาศัยอยู่ได้ เช่น ถ้าเราอยู่ในเขตสาทร เราไม่สามารถออกไปซื้อของย่านทองหล่อได้ ต้องอยู่ในเขตพื้นที่ของตัวเอง เพื่อควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัด
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ คือ ต้องมีสติและคิดบวก (Positive Thinking) รวมถึงเราต้องรู้จักป้องกันตนเอง เพราะการป้องกันตนเองนอกจากจะดีกับตัวเองแล้ว ยังช่วยปกป้องคนที่เรารัก และก็ช่วยสังคมได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่คนอิตาลีหันมาช่วยกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกันมีการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบร้องเพลงเล่นดนตรีจากริมระเบียงห้อง มีการเย็บหน้ากากส่งกำลังใจให้คุณหมอ
ขณะที่การทำงานอยู่ที่บ้านมีข้อดีคือ ได้จัดสรรเวลาให้ตนเองและเป็นการฝึกความรับผิดชอบ มีความยืดหยุ่นมากขึ้นที่ให้ ได้จัดสรรเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงาน
เธอบอกว่าเมื่อต้องทำงานที่บ้าน ต้องจัดสรรเวลาทำงานให้เป็นระบบ ถ้าปกติทำงาน 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ก็ควรทำงาน 8-10 ชั่วโมงจริงๆ กำหนดเวลา ว่าแต่ละชั่วโมงจะทำอะไร ตั้งเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน เวลาพักเบรคของตัวเอง โดยเวลาช่วงพักอย่าจ้องมือถือหรือดูแต่คอมพิวเตอร์ เพราะใช้สายตามาทั้งวันแล้ว และควรหางานอดิเรกทำร่วมด้วย เช่น ล้างจาน ทำกับข้าว ทำขนม ยืดเส้นยืดสายภายในห้อง หรือจะเรียนทำขนม ทำอาหาร เรียนภาษา ซึ่งตอนนี้มีคอร์สให้เรียนผ่านระบบออนไลน์เป็นจำนวนมาก ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะหาความรู้ใหม่ๆ ให้ตัวเองได้มากขึ้น
อยู่บ้าน หยุดเชื้อ!
น.ส.ปีย์วรา เล่าอีกว่า การไปซูเปอร์มาร์เก็ตแต่ละครั้งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้แก่ตนเอง จึงพยายามออกไปข้างนอกให้น้อยลงจากตอนแรกไปอาทิตย์ละครั้ง แต่ทุกวันนี้ต้องปรับรูปแบบการใช้ชีวิตออกไปครั้งนึงซื้อของกลับมาให้อยู่ได้ 2-3 อาทิตย์ ซึ่งการป้องกันตัวเองนอกจากใส่หน้ากากอนามัย ใส่ถุงมือแล้ว สิ่งที่สำคัญเลยต้องมีการทำรายการสินค้าของใช้จำเป็นที่จะซื้อ (Check List) และลิสต์เมนูอาหารในแต่ละวันก่อนออกไป เพื่อที่จะได้รู้ว่าจะซื้ออะไรกลับมาบ้าง เพื่อใช้เวลาอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตให้น้อยที่สุด
เมื่อกลับมาถึงก็จะทำความสะอาดของทุกอย่างที่ซื้อมา ก่อนจะแพ็คและจัดเก็บไว้ในตู้เย็น โดยเธอมองว่า การกักตุนอาหารควรซื้อเท่าที่จำเป็น ไม่ต้องซื้อเกินความจำเป็น ควรมีเหลือแบ่งปันไว้ให้คนอื่นด้วย
เรียกร้องรัฐบาลช่วยคนไทย-นักท่องเที่ยวกลับบ้าน
ขณะเดียวกันคนไทยในอิตาลี ยังขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย คือ อยากให้คนไทยในอิตาลีบางส่วนที่อยากกลับไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยที่ติดอยู่ที่นี่ เนื่องจากบางคนไม่ได้มีที่พักอาศัยถาวร ต้องอยู่ตามโรงแรมหรือหาที่พักอยู่ชั่วคราว เป็นเรื่องลำบากในตอนนี้
อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือคนไทยที่อยากกลับบ้าน เนื่องจาก รัฐบาลไทยมีนโยบายว่าต้องมีใบรับรองแพทย์ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ประเทศอิตาลีขณะนี้ ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้หมอและบุคลากรทางการแพทย์มีไม่เพียงพอ
ใบรับรองแพทย์ไม่ใช่สิ่งที่ออกได้ง่ายๆ ตามกฎของที่นี่ ทำให้กลุ่มคนไทยประสบปัญหา หากรัฐบาลมีการช่วยสนับสนุนหนึ่งเที่ยวบินที่จะช่วยพาทุกคนกลับก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้