คนไทยเล่า COVID ในสหรัฐฯ รัฐบาลเคร่งครัด-ชาวเมืองปรับตัว

ต่างประเทศ
26 มี.ค. 63
17:04
3,444
Logo Thai PBS
คนไทยเล่า COVID ในสหรัฐฯ รัฐบาลเคร่งครัด-ชาวเมืองปรับตัว
"สหรัฐอเมริกา" อาจจะกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 แห่งใหม่ หลังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 70,000 คน สร้างความวิตกกังวลให้กับชาวเมือง และเริ่มมีการปรับตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน ขณะที่ภาครัฐออกมาตรการบังคับใช้อย่างเคร่งครัด

พันโทหญิงแอน ไทยอุดม นักศึกษาปริญญาเอก สาขาการพยาบาล มหาวิทยาลัยมิสซูรี-เซนต์หลุยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยกับทีมข่าวไทยพีบีเอส ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่สหรัฐฯ ว่า แม้เมืองเซนต์หลุยส์จะอยู่ห่างจากนิวยอร์ก จุดศูนย์กลางการระบาดของโรคแห่งใหม่ถึง 1,500 กิโลเมตร แต่ประชาชนใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัด เพราะขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อที่สหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดเกือบ 70,000 คนแล้ว จัดเป็นอันดับ 3 ของโลกที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุดรองจากจีนและอิตาลี และอาจกลายเป็นจุดศูนย์กลางการระบาดของ COVID-19 แห่งใหม่ของโลก

ประเทศสหรัฐอเมริกประกาศภาวะฉุกเฉินไปยังทุกๆ มลรัฐ ทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการออกมาตรการให้ผู้คนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการห้ามออกจากที่พักอาศัยหากไม่จำเป็น การจำกัดระยะทางในการเดินทางได้ไม่เกิน 50-60 ไมล์ หรือไม่เกิน 80-90 กิโลเมตร การจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต กีฬา สถานบันเทิงต่างๆ ถูกสั่งงด รวมถึงขณะที่บรรดาร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เพราะเปิดบริการให้สำหรับซื้อไปรับประทานที่บ้านได้เท่านั้น

 

ปัจจุบันผู้คนมีความเครียด ตื่นตระหนก และเริ่มมีการกักตุนสินค้า อาทิ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ เริ่มที่จะขาดแคลน โดยเฉพาะกระดาษชำระ ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ชาวอเมริกันมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง โดยการหาซื้อสายฉีดชำระมาติดตั้งเองที่บ้าน เพื่อใช้ทดแทนกระดาษชำระ เพราะเชื่อว่าน่าจะยังขาดแคลนต่อไปอีกระยะหนึ่ง

รวมถึงมีการสั่งซื้อปรอทวัดไข้ เพื่อดูแลตัวเองเบื้องต้น เพราะบางทีเราอาจจะป่วยมีไข้เล็กๆ น้อยๆ หรือเป็นไข้หวัดปกติ จะได้สามารถดูแลตัวเองได้ไม่เป็นภาระของแพทย์และพยาบาล ขณะที่น้ำดื่มบรรจุขวดอยู่ในช่วงขาดแคลน ผู้คนจึงนิยมสั่งซื้อเครื่องกรองน้ำและไส้กรองน้ำเอาไว้ใช้ทดแทน

เราสั่งซื้อสายชำระ จะมาติดตั้งในห้องน้ำ เพื่อทดแทนกระดาษชำระที่กำลังขาดแคลนอย่างมากในสหรัฐอเมริกา เราก็กลับมาใช้วิถีชีวิตแบบไทยๆของเรา

 

ขณะที่การช่วยเหลือของรัฐบาลสหรัฐฯ นอกเหนือจากการออกมาตรการต่างๆ มาอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังมีการออกข้อบังคับต่างๆ ให้หน่วยงานและภาคธุรกิจจ่ายค่าตอบแทนแก่ประชาชนที่ทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home) เพื่อจะได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างแท้จริง ตลอดจนมีการบังคับใช้กฏหมายสำหรับบุคคลที่ฝ่าฝืน สร้างความวุ่นวายแก่สังคม จะมีบทลงโทษที่เด็ดขาดให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะว่าผู้คนเขามีจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศใหญ่ การบังคับใช้กฎหมายจึงเข้มแข็งมาก นอกจากความเคร่งครัดแล้ว เขายังออกมาตรการให้ภาคธุรกิจจ่ายค่าแรงให้ประชาชน แม้จะทำงานอยู่บ้าน

ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตระดับโลก ในสหรัฐฯ เห็นภาพความร่วมมือร่วมใจของอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลือโรงพยาบาลในสหรัฐฯ ที่กำลังประสบภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันการกระจายเชื้อให้แก่เจ้าหน้าที่ จึงได้ขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งนักศึกษาทางมหาวิทยาลัยมิสซูรี-เซนต์หลุยส์ บริจาคถุงมือ หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์จำเป็นทางการแพทย์ เพราะต้องไว้ใช้สอนนักเรียนพยาบาล โดยนักศึกษาไทยได้เข้าไปมีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครรวบรวมอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เหล่านี้ เพื่อนำไปบริจาคยังโรงพยาบาลในเมืองเซนต์หลุยส์ให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ดูแลผู้ป่วยต่อไป

 

ส่วนรูปแบบการช่วยเหลือประชาชน ปัจจุบันมีการปรับให้เข้ากับสถานการณ์ยิ่งขึ้น โดยมีการแจกอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคใส่ถุงมอบแก่ประชาชน แต่จะไม่อนุญาตให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม โดยให้เดินเข้าไปรับทีละคน หรือหากใครมีรถก็สามารถใช้วิธีขับรถผ่านเข้าไปรับแล้วเปิดประตูท้ายรถ เจ้าหน้าที่ก็จะนำอาหารและสิ่งของต่างๆ ไปใส่บริเวณท้ายรถไว้ให้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและลดการแพร่กระจายเชื้อ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

WHO ชี้ปิดประเทศ ยังไม่ชนะไวรัส

นายกเทศมนตรีอิตาลี อัดคลิปโวยประชาชนไม่ร่วมมือพักอยู่กับบ้าน

คนไร้บ้าน 60,000 คนในแคลิฟอร์เนียอาจติดเชื้อ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง