“พุเตย” บูรณาการ ตั้งศูนย์ฯ ต้าน COVID-19 ไม่ให้กระทบชุมชน

สังคม
30 มี.ค. 63
11:39
724
Logo Thai PBS
“พุเตย” บูรณาการ ตั้งศูนย์ฯ ต้าน COVID-19  ไม่ให้กระทบชุมชน
เทศบาลตำบลพุเตย จ.เพชรบูรณ์ บูรณาการทุกหน่วยงาน จับมือชาวบ้าน อสม. ตั้งศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน ป้องกันไม่ให้ไวรัส COVID-19 ระบาดเช้าสู่ชุมชน

วันนี้ (30 มี.ค.63) นางจินตนา ทองใจสด นายกเทศมนตรีตำบลพุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หนึ่งใน 55 ศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน (ศจค.) กล่าวถึงแผนรับมือการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในพื้นที่ว่า หลังทราบถึงการแพร่ระบาดเกี่ยวกับ COVID-19 ก็เริ่มประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจ และป้องกันตัวเองในเบื้องต้น เมื่อเริ่มเห็นตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้น จึงตั้งศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการระบาดไวรัส COVID-19 เพื่อเตรียมรับมือ

 

โดยศูนย์ฯ ดังกล่าว เป็นการทำงานร่วมกันของเทศบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) อสม. กรรมการชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และตำรวจ โดยมีศูนย์ฯ ทำหน้าที่วางแผน ติดตาม การเฝ้าระวังการระบาด จัดทำแผนปฏิบัติการ ใช้สื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์เพื่อให้เกิดการตระหนักและเข้าใจ เช่น ใช้เสียงตามสายเน้นย้ำวันละ 3 เวลา สื่อแผ่นพับแจกชาวบ้าน ใช้การสื่อสารผ่านสื่อโซเชียล จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ในพื้นที่เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจยิ่งขึ้น

เราประชุมสรุปรายงานผลทุกวัน ผ่านการสื่อสารทางไลน์กลุ่มของคณะทำงาน แบ่งงานกันทำตามบทบาทหน้าที่ เทศบาลจะเป็นจุดอำนวยการ วางแผนการทำงาน ขณะเดียวกัน รพ.สต. และ อสม. ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรรมการชุมชน ลงให้ความรู้กับชาวบ้านให้ช่วยกันเฝ้าระวังในพื้นที่ของตัวเอง ถ้ามีใครเข้ามาในหมู่บ้านก็จะต้องแจ้งหรือรายงานให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ

นางจินตนากล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ในการดูแลของเทศบาลตำบลพุเตย มีทั้งหมด 9 ชุมชน 6 หมู่บ้าน ประชากรรวม 7,800 คน แต่มีคนที่อยู่ในพื้นที่จริงประมาณ 3,000 คน ที่เหลือก็ออกไปทำงานนอกพื้นที่ จากการเฝ้าระวังที่ผ่านมา ยังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 แต่มีเคสที่ต้องเฝ้าระวังและกักตัวไว้ 14 วัน แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่กลับมาจากต่างประเทศ คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ เกาหลี และ ญี่ปุ่น 7 คน ซึ่งพ้นกำหนดการกักตัว 14 วัน ไปแล้ว 5 ราย ยังคงเหลืออีก 2 คน ที่ต้องเฝ้าระวังต่อ

 

ส่วนอีกกลุ่มเป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ข้อมูล ณ วันที่ 22 มี.ค. มีจำนวน 67 คน ขณะนี้ยังต้องกักตัวเอง 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการ และทุกวันก็จะมี อสม. รพ.สต. กำนัน และ ผู้ใหญ่บ้าน ลงไปตรวจเยี่ยมวัดไข้

การกักตัวและเฝ้าดูอาการทำทั้งการแยกห้อง ใส่หน้ากาก แยกจาน ชาม ทานอาหารแยกกับครอบครัว และถ้าเป็นไปได้ก็ให้อยู่เฉพาะในห้องตัวเอง ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือ เพราะที่ผ่านมาเคยมีกรณีไม่ให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่ก็ลงพื้นที่และนำตำรวจลงไปช่วยเจรจา ทำความเข้าใจ ตอนนี้ชาวบ้านและผู้นำชุมชน ช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่ออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น

หากไปซื้อของในตลาดสด ถ้าใครไม่สวมหน้ากากอนามัย แม่ค้าจะไม่ขายของให้ ชาวบ้านที่นี่จึงสวมหน้ากาก และ หมั่นล้างมือ เพราะเขากลัวกัน ส่วนสภาพในหมู่บ้านตอนนี้เงียบ ทุกคนพยายามอยู่ในบ้าน ระมัดระวัง เพราะกลัว เขาก็ปฏิบัติตัวกันอย่างเคร่งครัด ทั้งคณะกรรมการหมู่บ้าน หมอ อสม.ทำงานหนักมาก แต่ก็ช่วยกันทุกคน เพื่อให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปให้ด้วยกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง