ชี้ขั้นตอนคัดกรอง "สุวรรณภูมิ" แยกคนเป็นไข้ตั้งแต่ต้นแล้ว

สังคม
4 เม.ย. 63
16:30
870
Logo Thai PBS
ชี้ขั้นตอนคัดกรอง "สุวรรณภูมิ" แยกคนเป็นไข้ตั้งแต่ต้นแล้ว
ฝ่ายที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวด่วนถึงตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 โดยขอให้ผู้โดยสารที่กลับจากต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) เข้ารายงานตัวด่วนก่อนเวลา 18.00 น. พร้อมยืนยันขั้นตอนคัดกรองมีการแยกผู้มีอาการไข้ออกไปตั้งแต่ต้นแล้ว

วันนี้ (4 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายเกี่ยวข้องกรณีการคัดกรองที่สนามบินสุวรรณภูมิ แถลงข่าวสถานการณ์การคัดกรองผู้โดยสาร ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจาก 152 คนไทยกลับจากต่างประเทศหนีกักตัว COVID-19 โดยระบุว่า จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนการระบาดจากเอเชียไปอยู่ฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยปะปนมาทางการเดินทางกับเครื่องบินเข้ามาภายในประเทศ พบผู้ป่วยจากอังกฤษพยายามทานยากดเชื้อและปกปิดข้อมูลขึ้นเครื่องมา และจากเอเชียมีผู้โดยสารเดินทางมา 27 คน และพบว่าติดเชื้อกว่า 20 คน แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงของการเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงแตกต่างกัน

แจงไม่รายงานตัวเสี่ยงนำเชื้อไปติดครอบครัว

ทั้งนี้ เมื่อคัดกรองก็พบว่ามีปัญหา มีบางส่วนที่อาจมีอาการป่วย จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ว่าประชาชนที่ไม่ได้มารายงานตัว ก็มีความเสี่ยงที่อาจป่วยได้ เมื่อกลับไปเจอคนในครอบครัวก็อาจแพร่โรคใส่ได้ ซึ่งประชาชนที่ต้องเดินทางเข้ามาในประเทศช่วงนี้ รัฐจะต้องกักตัวในสถานที่ที่จัดให้ และญาติไม่ต้องมารับ ตัวผู้เดินทางเองก็ต้องสื่อสารว่าอย่าเพิ่งมารับ เพื่อลดโอกาสของการแพร่โรค รวมทั้งจะต้องนำผู้โดยสารทุกท่านที่เดินทางเข้ามาจากนี้ไป ไป Stage Quarantine ขอให้ติดต่อทาง Social ทางโทรศัพท์ก่อน 14 วัน หลังจากนั้นจะได้พบกับญาติ

 

ยืนยันแยกผู้มีอาการไข้ออกไปตั้งแต่ต้นแล้ว

สำหรับขั้นตอนการคัดกรอง ปัจจุบันการที่ผู้เดินทางที่เป็นคนไทยจะเข้าประเทศไทย ทุกคนจะต้องมีหนังสือรับรองจากสถานทูตมีใบรับรองแพทย์ (Fit to fly) ซึ่งการที่ขอเอกสารพวกนี้ได้แสดงว่าต้องรับรู้ข่าวสารในประเทศไทย ทั้งนี้ จะมีการแยกคนที่เป็นไข้ออกไปตั้งแต่ต้นจะเหลือคนที่ไม่ป่วย หรือไม่มีอาการ และทุกคนจะถูกกำชับตั้งแต่ลงเครื่อง คัดกรอง ให้สวมใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ จะต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด โดยการติดเชื้อขึ้นอยู่กับวิธีการปฏิบัติตนของผู้เดินทาง

เปิดโอกาสรายงานตัวถึง 18.00 น. ของวันนี้

ส่วนผู้ที่ต้องรายงานตัว พบว่าตอนนี้บางส่วนมาแล้ว บางส่วนยังไม่มา เชื่อว่ามีบางส่วนที่ยังไม่รู้เพราะไม่มีอาการ ก็ขอให้กลับมา เพราะว่าเจ้าหน้าที่จะไปตรวจแล้วกักตัว โดยขอให้กลับมา เพราะถ้าไม่กลับมาผิดกฎหมายแน่นอน กลับมาเพื่อตัวเองและคนในครอบครัว ซึ่งจากตัวเลขที่มีการประชุมทุกวัน การแพร่ระบาด เห็นว่าตัวเลขลดลง ถ้าประชาชนช่วยกัน เชื่อว่าตัวเลขจะลดลงมาอีก ฝากประชาสัมพันธ์ผู้ที่ไม่ยอมกักตัว จะเปิดโอกาสให้ถึงเวลา 18.00 น. ของวันนี้ (4 เม.ย.) หากไม่มารายงานตัวในเวลา 18.00 น. จะดำเนินคดีทางกฎหมาย

 

ผู้ที่จะต้องเข้ากักตัวเตรียมแค่ของใช้ส่วนตัว-ยา

สำหรับผู้ที่จะมาเข้าสู่กระบวนการกักตัว เตรียมแค่เสื้อผ้า อุปกรณ์ เครื่องใช้ประจำตัว ยารักษาโรคประจำตัว ส่วนอาหารที่พักมีพร้อม เอกสารเอาเท่าที่ได้บอร์ดดิงพาส, บัตรประชาชน หรือเอกสารราชการก็ได้ และเมื่อเข้ามารายงานตัว เจ้าหน้าที่ก็จะสอบสวนว่าเมื่อกลับไปที่บ้านปฏิบัติตนอย่างไร เดินทางไปเส้นทางไหน เท่ากับว่ายังมีผู้สัมผัสอีกหลายคนที่มีความเสี่ยง ผู้สัมผัสควรเฝ้าระวังตัวเอง เป็นเวลา 14 วัน หากมีข้อซักถามหรือสงสัย โทรไป 1422 ได้ ซึ่งการกักตัวเป็นกรณีที่ยังไม่ป่วย สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1. มีพฤติกรรมที่ดี สวมหน้ากาก ล้างมือ 2. เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และ 3. ลดการเคลื่อนย้าย อยู่กับที่ 14 วัน

นายกฯ ประกาศเคอร์ฟิว เชื่อช่วยยับยั้งระบาด

ทั้งนี้ เจตนารมณ์นายกรัฐมนตรีในการประกาศเคอร์ฟิว เพราะเชื่อว่าการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคในทุกวิถีทางอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวม นายกรัฐมนตรีขอบคุณความร่วมมือที่ประชาชนให้ในเมื่อวานนี้ อาจจะมีการเลยเวลาบ้าง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารได้ให้ความยืดหยุ่น การเจตนาละเมิด อาจทำให้ประชาชนคนอื่นได้รับเชื้อ มีความเสี่ยง ฝากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ของตัวเอง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง