“คนไทยในสเปน” กักตัวอยู่บ้าน เอาตัวรอดวิกฤต COVID-19

ต่างประเทศ
9 เม.ย. 63
13:47
2,375
Logo Thai PBS
“คนไทยในสเปน” กักตัวอยู่บ้าน เอาตัวรอดวิกฤต COVID-19
คนไทยในสเปนเล่าการใช้ชีวิตและเอาตัวรอดในช่วงรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก อยู่ที่ 148,220  คน เสียชีวิต 14,792 คน

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศแถบยุโรปยังน่าวิตก โดยล่าสุด “สเปน” กลายเป็นประเทศอันดับ 2 ของโลก ที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 148,220  คน เสียชีวิต 14,792 คน ทำให้นายเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีของสเปน ประกาศขยายภาวะฉุกเฉินจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ออกไปเป็นวันที่ 26 เม.ย.นี้ เนื่องจากพบจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

บุณณดา รัตนะ นักศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยอัลกาล่า กรุงมาดริด ประเทศสเปน เล่าถึงกว่า 20 วันของการใช้ชีวิต หลังรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน ออกมาตรการสั่งปิดร้านค้าและธุรกิจที่ไม่จำเป็น โรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมถึงให้ประชาชนกักตัวอยู่ภายในที่พักอาศัย ห้ามออกจากบ้านยกเว้นมีเหตุจำเป็น ช่วงแรก ๆ ของการประกาศภาวะฉุกเฉินก็ยังมีชาวสเปนที่ไม่ปฎิบัติตามกฎ มีการใช้แอปพลิเคชันที่เปิดให้บริการเช่าสุนัขเพื่อนำมาเป็นข้ออ้างออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับพิรุธได้จึงเข้มงวดยิ่งขึ้น แต่ระยะหลังเมื่อเห็นว่ายอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประชาชนจึงเริ่มให้ความร่วมมือกับรัฐบาลมากขึ้น

 

สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในสเปนส่งผลให้เธอออกมาข้างนอกเพียงเดือนละ 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาเก็บไว้ทำอาหารรับประทานเองให้อยู่ได้นานถึง 2 สัปดาห์ โดยจะนำรถเข็นไปด้วยเพื่อซื้อของกลับมาได้ในปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้ชีวิต ซึ่งปกติคนสเปนจะมีรถเข็นติดบ้านไว้นำไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่แล้ว

จากการสำรวจพบว่าสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคยังมีเพียงพอต่อความต้องการ ไม่มีสินค้าขาดตลาด อาหารการกินหาซื้อได้ตามปกติ แต่ในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ค่อยมีเครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหารไทย เช่น กะทิ และน้ำปลา จึงจำเป็นต้องปรับวิธีการทำอาหาร

ตลอดเวลากว่า 20 วันที่กักตัวอยู่ในบ้านใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเขียนวิทยานิพนธ์ รวมถึงคอยติดตามอัพเดทข่าวสาร COVID-19 พยายามหากิจกรรมทำคลายเครียดไม่ให้รู้สึกเบื่อจนเกินไป

สำหรับกิจกรรมประจำวันของสเปน คือ ในช่วงเวลา 20.00 น.ของทุกวัน ชาวสเปนจะรวมใจกันปรบมือดังกึกก้องเพื่อส่งกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ ให้มีแรงใจทำงานต่อสู้กับเชื้อไวรัส COVID-19


ขณะที่ภาคธุรกิจที่ต้องปิดกิจการชั่วคราว มีการเลิกจ้างพนักงาน โดยแจ้งรายชื่อพนักงานไปยังรัฐบาลเพื่อให้จ่ายเงินชดเชยที่ถูกเลิกจ้างชั่วคราว เฉลี่ยเดือนละ 500-1,400 ยูโร หรือ 18,000-50,000 บาทแล้ว รวมถึงช่วยเหลือกลุ่มผู้มีอาชีพทำความสะอาดบ้าน ในส่วนของผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รัฐบาลก็จ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ระหว่างที่ถูกกักตัว

ชาวสเปนปรับวิถีสู้ COVID-19

จากตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ล่าสุดรัฐบาลสเปนออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยขณะออกจากบ้าน จากที่ก่อนหน้านี้สเปนยึดตามประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าถ้าไม่ป่วยไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย แต่หลังจากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นไม่หยุด สเปนจึงเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการใช้หน้ากากอนามัย โดยพิจารณาตัวอย่างจากประเทศในแถบเอเชีย อย่างเช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

อย่างไรก็ตาม การเพิ่งออกมาแนะนำให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยในช่วงเวลานี้ไม่สามารถทำได้จริง เนื่องจากปัจจุบันหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าหายาก ไม่มีวางจำหน่ายมานานแล้ว โดยกลุ่มคนที่ใช้หน้ากากอนามัยมาตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาด เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ แต่วัฒนธรรมที่คนในแถบยุโรปไม่คุ้นเคยกับการสวมใส่หน้ากากอนามัยในชีวิตประจำวัน จึงทำให้ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยังใส่แบบผิดวิธี ขณะที่ภาครัฐเพิ่งออกมาให้คำแนะนำวิธีการใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาซึ่งมองว่าช้าเกินไป ส่วนสินค้ายอดนิยมที่สเปนไม่ใช่กระดาษชำระ แต่เป็น เบียร์ มะกอกดอง และมันฝรั่งทอด หลังจากที่ต้องกักตัวอยู่ภายในที่พักอาศัยมานาน ทำให้คนสเปนคิดถึงวิถีชีวิตนอกบ้านจึงนิยมซื้อสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และขนมคบเคี้ยวมาเก็บไว้

 

ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เนื่องจากคนสเปนมีวัฒนธรรมนิยมสูบบุหรี่จัดและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทำให้สภาพร่างกายไม่พร้อมฟื้นฟูตัวเองหลังจากติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง โดยสำนักข่าวในสเปนรายงานว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากบ้านพักคนชรารวม หรือศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีอยู่ทั่วประเทศ และยังมีข่าวการติดตามจับกุมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ที่ทอดทิ้งไม่ดูแลผู้สูงอายุโดยไม่แจ้งต่อภาครัฐด้วย อีกทั้งยังออกคำสั่งให้ญาติงดเยี่ยมผู้สูงอายุภายในบ้านพักคนชรา เนื่องจากเกรงว่าจะนำเชื้อโรค COVID-19 ออกไปแพร่ระบาดภายนอกเพิ่มขึ้น

ไฟล์ทบินกลับไทยหายาก ?

ปัจจุบันคนไทยที่อาศัยอยู่ในสเปนมีจำนวนไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการร้านอาหารไทยและร้านนวดไทย รวมถึงลูกจ้างที่ทำงานในภาคธุรกิจบริการเหล่านี้ เพราะกฎการออกวีซ่าทำงานแก่ชาวต่างชาติของสเปนค่อนข้างเข้มงวด นอกจากนั้นก็จะเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่ที่เดินทางกลับประเทศไทยแล้วจะเป็นนักเรียนที่มาเรียนในคอร์สระยะสั้นเพราะขณะนี้โรงเรียนถูกสั่งปิดชั่วคราว

 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการเดินทางกลับเมืองไทยในช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะต้องใช้เอกสารจำนวนมาก ประกอบกับไม่มีไฟล์ทบินตรงจากสเปนกลับไทยจำเป็นต้องต่อเครื่องและเมื่อหลายประเทศสั่งปิดประเทศทำให้การเดินทางยากยิ่งขึ้น โดยทางสถานทูตไทยในสเปนดูแลคนไทยดีมาก คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือต่าง ๆ โดยเฉพาะการขอเอกสารใบรับรองแพทย์ สถานทูตจะประสานให้ว่าต้องไปดำเนินการที่ใดบ้าง

ยิ่งกว่านั้นที่มาดริดมีการจัดทำแอปพลิเคชันและเว็บไซต์แบบประเมินตัวเองว่าติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปตรวจสอบตัวเองเบื้องต้นก่อน รวมถึงให้ความรู้เรื่องข้อมูลปฏิบัติและดูแลตนเอง ส่วนรถโดยสารสาธารณะยังมีให้บริการปกติ แต่จะเห็นได้ชัดว่าจำนวนผู้ใช้บริการลดจำนวนลง โดยภาครัฐได้ให้หน้ากากอนามัยและถุงมือแก่ผู้ขับรถโดยสารไว้สวมใส่ตลอดเวลาทำงาน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง