ประเพณีสรงน้ำอัฐิเว้นระยะห่าง-ห้ามลูกหลานกลับช่วงสงกรานต์

ภูมิภาค
14 เม.ย. 63
13:01
11,726
Logo Thai PBS
ประเพณีสรงน้ำอัฐิเว้นระยะห่าง-ห้ามลูกหลานกลับช่วงสงกรานต์
ชาวบ้านคอกคี จ.ขอนแก่น ยังคงจัดประเพณีสรงน้ำอัฐิ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ญาติผู้ล่วงลับ แต่เพิ่มมาตรการเว้นระยะห่าง ขณะที่หมู่กำหนดมาตรการห้ามลูกหลานเดินทางกลับช่วงสงกรานต์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

บรรยากาศประเพณีสรงน้ำอัฐิ หรือสรงน้ำเถ้ากระดูก ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษและญาติผู้ล่วงลับ ที่หมู่บ้านคอกคี ต.บัวใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ไม่คึกคักเหมือนทุกปี เพราะหากไม่มีการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ลูกหลานของทุกครอบครัวกว่า 300 คน ที่ไปทำงานต่างถิ่น จะกลับบ้านมาร่วมประเพณีนี้ เพราะเป็นประเพณีสำคัญ ที่ชุมชนยังคงรักษาสืบทอด เพื่อเชื่อมร้อยจิตใจของลูกหลาน ให้ยึดมั่นในความกตัญญูกตเวที

แต่ปีนี้เป็นอย่างที่เห็น มีเพียงผู้เฒ่าผู้แก่ และคนที่อาศัยในหมู่บ้านเท่านั้นที่ประกอบพิธีสรงน้ำอัฐิ เพราะนอกจากมาตรการของระดับประเทศ บ้านคอกคียังกำหนดมาตรการชุมชน ห้ามลูกหลานที่ทำงานต่างถิ่นกลับบ้านช่วงสงกรานต์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ปีนี้ไม่มีลูกหลานบ้านไหนที่กลับบ้านช่วงสงกรานต์ เพื่อความปลอดภัยของผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน

ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างบอกว่าคิดถึงลูกหลาน เพราะนี่คือปีแรกที่ไม่ได้เห็นหน้า และได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทุกคนบอกว่าอยากให้โรคร้ายหายไปโดยเร็ว

นายบุญมา ต้นกันยา ผู้ใหญ่บ้านคอกคี หมู่ 9 บอกว่า แม้ภาครัฐจะสั่งให้ยกเลิกงานสงกรานต์ แต่สำหรับชุมชน ประเพณีสรงน้ำอัฐิยกเลิกไม่ได้ เพราะตามความเชื่อคนอีสาน จะให้ความสำคัญกับการสรงน้ำเถ้ากระดูกบรรพบุรุษ ซึ่งคล้ายกับประเพณีไหว้บรรพบุรุษในวันเช็งเม้งของชาวจีน ซึ่งจัดให้มีขึ้นในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน คือในช่วงเดือนเมษายนเหมือนกัน

แต่ปีนี้ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ทั้งวัดไข้ก่อนเข้าวัด และให้เว้นระยะห่าง รวมทั้งขยายเวลาการทำพิธี จากเดิมคือทำวันเดียว คือวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี เป็นให้เริ่มสรงน้ำอัฐิตั้งแต่วันที่ 8-15 เมษายน

การสรงน้ำเถ้ากระดูกบรรพบุรุษ จะนำกระดูกออกมาจากอัฐิธาตุ มาประพรมน้ำอบน้ำหอม รวมทั้งจัดตั้งเครื่องเซ่นไหว้ และประกอบพิธีบังสุกุล

ซึ่งพิธีบังสุกุล ได้ปรับเปลี่ยน จากเดิมที่พระสงฆ์จะมาชักผ้าบังสุกุลที่หน้าอัฐิธาตุ ก็เปลี่ยนเป็นประกอบพิธีที่ศาลาวัด และโยงสายสิญจน์มาที่อัฐิธาตุแทน

จากนั้นญาติโยมจะถวายจตุปัจจัย ไทยธรรม กรวดน้ำอุทิศบุญกุศลให้ผู้ตาย

นอกจากขอพรให้ทุกคนในครอบครัวแล้ว ชาวบ้านคอกคีต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาขอพรให้โรคระบาดคลี่คลายโดยเร็ว เพราะอยากให้ลูกหลานได้กลับบ้าน มาทำบุญพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง