พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงตามลำดับ เป็นตัวชี้วัดที่ศูนย์ ศบค.จะพิจารณาถึงหลักเกณฑ์ว่าจะผ่อนปรนเรื่องใดได้บ้าง แต่ตอนนี้สถานการหลายพื้นที่ก็ยังเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อสูง ทั้งนี้การผ่อนปรนในพื้นที่ต่างๆ หน่วยงานเตรียมไว้แล้ว หากสถานการณ์ดีขึ้นจะปรับอย่างไร และหากไม่ดีขึ้นจะเพิ่มความเข้มข้นอย่างไร ซึ่งจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน เม.ย.นี้
ผมทราบดีว่าท่านเดือดร้อน ท่านร้อนใจผมยิ่งร้อนใจกว่าท่าน เพราะผมเป็นรัฐบาล
ทั้งนี้ มาตรการผ่อนปรนจะค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ปล่อยทีเดียวทั้งหมด เพราะบางพื้นที่ยังมีการระบาดอยู่ เช่น ภาคกลาง กรุงเทพฯ ปริมณทล และภาคใต้ ซึ่งต้องมีมาตรการป้องกันใหม่ ส่วนจะผ่อนปรนที่ใดขึ้นอยู่กับความพร้อมของท่าน เมื่อท่านจะเปิด จะมีมาตรการตรวจคัดกรองคนเข้าออกและรองรับจำนวนประชาชนเข้าไปยังจังหวัดอย่างไร
สำหรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะครบกำหนดวันที่ 26 เม.ย. นี้ ส่วนจะใช้ต่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับการประเมินของศูนย์ ศบค. ที่จะคิดวิเคราะห์หลายๆ ด้าน แม้สถานการณ์มีแนวโน้มลดลงบ้างในบางช่วง เพราะเราอาจจะป้องกันการระบาดได้ดี แต่หากหย่อนวินัยหรือความเข้มงวดการติดเตื้อก็อาจกลับมาโจมตีอีก ดังนั้นเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทราบว่ามีผลกระทบและประชาชนเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลพยายามจะหาอย่างอื่นทดแทนให้
นอกจาก นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีรับคนไทยในอินโดนีเซียกลับไทย โดยระบุว่า ต้องดูความพร้อมของมาตรการในการรองรับ ซึ่งตอนนี้มีคนไทยอยากกลับและมีคนของเขาอยากกลับประเทศด้วย ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาขอขอบคุณคนไทยที่ทำตามหลักเกณฑ์และทยอยกลับตามจำนวนที่รัฐบาลกำหนด ช่วยลดปัญหาการรับมือและลดผลกระทบต่อสนามบิน จึงขอขอบคุณที่ท่านเข้าสู่การคัดกรองและกักตัวตามมาตรการของรัฐ