วันนี้ (16 เม.ย.2563) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินทางไปที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อติดตามการใช้งานระบบ AI ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ประเทศไทย (จำกัด) นำไปติดตั้งเป็นอุปกรณ์ช่วยแพทย์พยาบาลวิเคราะห์การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เบื้องต้นว่า คนไข้ที่มารับการรักษามีความเสี่ยงติดเชื้อหรือไม่
นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ เพื่อสอบถามการปฏิบัติงาน และให้กำลังใจ พร้อมกล่าวชื่นชมที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ระบุว่า ส่วนตัวคุ้นเคยและได้เห็นการทำงานของแพทย์ และทุกคน ตั้งแต่สมัย พ่อและแม่ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ รวมถึงได้ถวายอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และส่วนตัวได้มาถวายงาน กินนอน อยู่ที่นี่หลายครั้ง
การทำงานของแพทย์พยาบาลถือว่า ได้ทำงานถวายรัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และได้ถวายรายงานให้พระองค์ได้รับทราบทุกวัน และพระองค์ได้แสดงความห่วงใยว่า หากมีสิ่งอื่นใดที่ช่วยเหลือได้ ขอให้บอกมา
อยากฝากทุกคนให้รู้ว่า ความดีที่ทำในวันนี้ไม่ได้สูญหายไปไหน ถึงแม้การทำงานจะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง ก็ให้คิดว่าไม่เป็นไร แต่ทุกคนจะรู้เองว่า ได้ทำอะไรอยู่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุม ครม.เมื่อวานนี้ ได้พูดในที่ประชุมว่า สิ่งไหนที่ผิดพลาดก็ต้องนำมาปรับปรุงและพัฒนา โดยไม่ต้องบอกกล่าวใคร เพราะเรานั้นย่อมรู้แก่ใจของตัวเอง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอโทษบุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำให้ไม่สบายใจ ส่วนตัวอาจติดนิสัยเดิมที่เคยเป็นทหาร พูดจาไม่ค่อยเข้าหูคนบ้าง บางครั้งเข้าถึงรายละเอียดมากเกินไป บางครั้งไม่เหมาะสมที่จะออกมาพูด จึงเป็นนักการเมืองไม่ได้
นายกรัฐมนตรีอยากอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ จนบางครั้งถูกบิดเบือน จึงไม่ขอพูดดีกว่า เพราะพูดไปเป็นปัญหาทุกที เพราะบางครั้งมีการสร้างประเด็นเรื่อย ๆ จนเกิดผลเสียตามมา ทั้งที่สิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นในประเทศไทยก็เกิดขึ้น โดยเฉพาะการพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ทุกวัน ที่ไม่น่าเกิดขึ้นในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี ได้พูดหยอกล้อกับบุคลากรทางการแพทย์ว่า
เราคุยกันได้ในฐานะที่อยู่ในระดับบริหารด้วยกัน ซึ่งผมมองแบบนี้ และวันหน้าก็ฝากไว้ด้วย เผื่อคุณหมอคนไหนจะมาเป็น นายกฯ ซึ่ง หมอหนู ก็มีสิทธิ โอเคนะ อย่าพูดกันไปมา เพราะประเทศไทยชอบหาจำเลย