ชาวปารีสเฝ้ารอสิ้นสุดล็อกดาวน์ 11 พ.ค.นี้

ต่างประเทศ
20 เม.ย. 63
07:40
1,540
Logo Thai PBS
ชาวปารีสเฝ้ารอสิ้นสุดล็อกดาวน์ 11 พ.ค.นี้
ชาวฝรั่งเศสต่างเฝ้ารอการสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ หลายคนบอกว่าอยากกอดลูก ๆ และเข้าร้านตัดผม ขณะที่อิหร่านอนุญาตให้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำเปิดให้บริการได้ แต่ต้องเข้มงวดควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19

วันนี้ (20 เม.ย.2563) ชาวกรุงปารีสอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการระบาดของ COVID-19 มานานเกือบ 5 สัปดาห์ ส่วนใหญ่กำลังเฝ้ารอให้ถึงวันที่ 11 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ตามคำประกาศของนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดี โดยโรงเรียนและร้านค้าจะกลับมาเปิดในวันดังกล่าว แต่ร้านอาหาร โรงแรม ร้านกาแฟ และโรงภาพยนตร์ ยังคงต้องปิดบริการต่อไป ขณะที่การเดินทางขาเข้าจากประเทศนอกภูมิภาคยุโรปยังอยู่ภายใต้คำสั่งห้ามจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวรอยเตอร์ สอบถามชาวกรุงปารีสว่าจะทำอะไรเป็นอันดับแรกหลังมาตรการกักกันโรคสิ้นสุดลง โดยบางคนบอกว่าจะเข้าไปกอดลูก ๆ ขณะที่บางคนก็บอกว่าจะไปหาช่างทำผมเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ ทางการฝรั่งเศสดำเนินมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในกรุงปารีส และห้ามชาวเมืองมาออกกำลังกายกลางแจ้งระหว่างเวลา 10.00-19.00 น.ของทุกวัน โดยฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 มากสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ อิตาลี และสเปน ล่าสุดมียอดติดเชื้อสะสม 154,097 คน เสียชีวิต 19,744 คน

อังกฤษเสียชีวิตลดลง ยังไม่คลายล็อกดาวน์

ส่วนที่อังกฤษ แม้ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 เพิ่มต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อยู่ที่ 596 คน ยอดสะสม 16,095 คน แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยนายนกาวิน วิลเลียมสัน รมว.กระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า รัฐบาลยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่จะให้โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอน แม้จะมีการคาดการณ์จากสื่อว่าเด็กบางส่วนอาจกลับไปเรียนได้ในเดือนพฤษภาคม

อิหร่านผ่อนคลายล็อกดาวน์

ขณะที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านอนุญาตให้ธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำเปิดให้บริการได้ หลังหลายพื้นที่ของประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการระบาดของ COVID-19 นาน 1 สัปดาห์ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน ระบุว่า ธุรกิจและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งศูนย์วัฒนธรรมและกีฬา ร้านเสริมสวย โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ยังคงต้องปิดให้บริการต่อไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

กระทรวงสาธารณสุขอิหร่าน เปิดเผยอีกว่า ธุรกิจที่เข้าข่ายเปิดให้บริการได้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นจะถูกปรับหรือถูกสั่งปิด ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลจะเปิดทำการระหว่าง 07.00-14.00 น. และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องเว้นระยะห่างกัน

ส่วนคนขับรถแท็กซี่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด โดยต้องมีแผ่นฟิล์มพลาสติกกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสาร และต้องฆ่าเชื้อภายในรถ ขณะที่สำนักงานจราจรของกรุงเตหะราน เปิดเผยว่า ปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากชาวเมืองหันมาใช้รถส่วนตัวมากกว่ารถสาธารณะ เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง