สธ.เตรียมเสนอผ่อนปรนล็อกดาวน์ เริ่ม 32 จังหวัด พ.ค.นี้

สังคม
20 เม.ย. 63
12:56
89,152
Logo Thai PBS
สธ.เตรียมเสนอผ่อนปรนล็อกดาวน์ เริ่ม 32 จังหวัด พ.ค.นี้
ก.สาธารณสุข เตรียมเสนอ ศบค. ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ โดยจะเริ่มใน 32 จังหวัด ต้นเดือน พ.ค.นี้ ให้ภาคธุรกิจเปิดทำการ ซึ่งจะให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วน กทม. และปริมณฑล จะเป็นกลุ่มสุดท้ายของการเปิด เนื่องจากยังเป็นพื้นที่เสี่ยง

วันนี้ (20 เม.ย.63) นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาชาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เฉพาะการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 กล่าวภายหลังประชุมหารือแนวทางผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์รับมือ COVID-19 ว่า ที่ประชุมได้หารือร่วมกับคณะแพทย์จากสถาบันต่าง ๆ ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน โดยที่ประชุมเห็นตรงกันถึงการผ่อนปรนมาตรการเพื่อให้ประชาชนทั่วไป และภาคธุรกิจ สามารถไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยมาตรการที่ต้องคงไว้ไม่สามารถผ่อนปรนได้ ได้แก่ การตรวจคัดกรองประชาชน ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และผู้ที่เดินทางมาต้องอยู่ภายในภายที่กักตัวที่รัฐจัดหาให้ 14 วัน ตามที่รัฐกำหนด และทุกจังหวัดต้องมีการค้นหาผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในสถานที่ชุมชน สถานที่แออัดหนาแน่น และเพิ่มความเข้มข้นเรื่องการตรวจห้องปฏิบัติการซึ่งมาตรการนี้จะต้องไม่หย่อนอย่างเด็ดขาด

นพ.คำนวณ บอกด้วยว่า สิ่งที่ประชาชนต้องปฏิบัติตัวอย่างสม่ำเสมอ คือการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง งดการชุมนุม เพื่อไม่ให้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ส่วนของดำเนินงานของภาคธุรกิจ ทราบว่าขณะนี้มีประชาชน 7-10 ล้านคน ประสบปัญหาตกงาน จึงประเมินร่วมกัน และผ่อนปรนเพื่อให้กลับมาเปิดทำการได้ตามปกติ ซึ่งปรับตามความเสี่ยง และความหนาแน่นในพื้นที่ของสถานประกอบการแบ่งเป็นความเสี่ยง สูง เสี่ยงกลาง เสี่ยงต่ำ

ส่วนกิจการที่ต้องหยุดดำเนินต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คลับ คาราโอเกะ อาบอบนวด สนามมวย ที่มีการพนันแข่งขัน ร้อง ตะโกน เป็นผลมาจากข้อมูลการแพร่ระบาดของโรค ที่เป็นต้นตอของการเพิ่มจำนวนผู้ป่วย

ทั้งนี้ ในอนาคตการพิจารณาปิดสถานที่จะไม่ทำแบบครอบจักรวาล ขยายเหมือนหมดทุกพื้นที่ ทั้งประเทศ 77 จังหวัด แต่จะพิจารณาบางพื้นที่ และมีการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์เฉพาะ ในพื้นที่ที่เกิดปัญหา เพื่อชะลอไม่ให้กลับมาแพร่ระบาดซ้ำอีก โดยพิจารณาใช้ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข จากวันที่ 14 เม.ย. พบว่า ในพื้นที่ 32 จังหวัด ไม่มีการระบาดมานาน 2 สัปดาห์ ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อระดับต่ำ กลุ่มนี้จะสามารถผ่อนปรนมาตรการได้ก่อน เริ่มดำเนินการต้นเดือน พ.ค.จากนั้นหาก 2 สัปดาห์ สถานการณ์ดีขึ้นก็พิจารณาเพิ่มจังหวัดที่มีการติดเชื้อประปรายในรอบ 2 สัปดาห์ อีก 38 จังหวัดให้เปิดได้ปกติ คาดว่ากลุ่มนี้จะดำเนินการได้กลางเดือน พ.ค.

ส่วนที่เหลืออีก 7 จังหวัด ที่พบการติดเชื้อต่อเนื่องแต่ไม่มีการระบาดใหญ่ คาดว่า จะสามารถผ่อนปรนเปิดจังหวัดได้ประมาณต้นเดือน มิ.ย.แต่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดใหม่ในระลอก 2 - 3 หากประชาชนและภาคธุรกิจ ร่วมมือกันปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ก็จะทำให้เกิดความสมดุลต่อการใช้ชีวิต ความปลอดภัย ธุรกิจก็เดินหน้า ซึ่งภาคธุรกิจก็จะนำแนวทางของกระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาปรับให้เหมาะสม

สำหรับห้างสรรพสินค้า ถือว่า อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงปานกลาง การเข้าไปทำกิจกรรมในห้างร้าน ต้องมีการตรวจคัดกรองหน้าทางเข้า วัดอุณหภูมิ และกำหนดระยะเวลา การใช้บริการ และจำนวนที่เข้า ห้องน้ำภายห้างสรรพสินค้าต้องไม่รอคิว ทำแอปพลิเคชัน บันทึกข้อมูลผู้ใช้บริการในห้าง และให้ข้อมูลกับประชาชน ขณะเดียวก็สามารถดูว่ามาใช้บริการอะไร สิ่งสำคัญห้ามจัดนาทีทอง โปรโมชั่นอย่างเด็ดขาด

ส่วนสวนสาธารณะ คาดว่า เป็นสิ่งแรกที่สามารถกลับมาดำเนินการได้ เพราะเสี่ยงต่ำ แต่การออกกำลังต้องไม่จับกลุ่มชุมชน เช่นการออกกำลังกายทำได้ แต่ต้องไม่จับกลุ่ม ส่วนในเด็กนักเรียน ที่เลื่อนการเปิดภาคเรียนไปเดือน ก.ค.นั้น ก็ต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีการติดเครื่องปรับอากาศ ต้องมีการจัดโต๊ะและระยะห่าง

อย่างไรก็ตาม กรอบแนวคิดรูปแบบต่างๆนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะได้นำไปเสนอที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโคโรนาไวรัส 2019 (ศบค.) ต่อไป

สำหรับ 32 จังหวัด นำร่องแรก ได้แก่ น่าน กำแพงเพชร พิจิตร สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท บึงกาฬ ตราด ระนอง จันทรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด สุโขทัย
อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครนายก นครพนม พังงา สกลนคร สตูล หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลพบุรี สระบุรี

ส่วน 38 จังหวัดที่เหลือเปิดในรอบ 2 กลางเดือน พ.ค.ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี เชียงใหม่ นราธิวาส กระบี่ กาญจนบุรี ขอนแก่น ชุมพร เชียงราย ตรัง ตาก นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราษฎร์ นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง เพชรบุรี ระยอง ราชบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สงขลา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี

ส่วน 7 จังหวัดที่ยังพบผู้ป่วย และจะสามารถผ่อนปรนเปิดทำการเป็นกลุ่มสุดท้าย ต้น มิ.ย.ได้แก่ กทม ชลบุรี นนทบุรี ภูเก็ต สมุทรปราการ ปัตตานี ยะลา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง