วันนี้ (21 เม.ย.2563) นายเทดรอส อะดานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เตือนว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดจากการระบาดของ COVID-19 ยังรออยู่ข้างหน้า และขอให้ทั่วโลกร่วมกันทางป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว
นายเทดรอส กล่าวอีกว่าการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ไม่ได้หมายความว่าการระบาดในประเทศใดประเทศหนึ่งสิ้นสุดลง พร้อมทั้งระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์จะช่วยให้ประเทศต่างๆ รอดพ้นจากวิกฤตการระบาด
คำเตือนของนายเทดรอสมีขึ้นในขณะที่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในระดับที่แตกต่างกัน ล่าสุดเดนมาร์กอนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กทั่วประเทศกลับมาเปิดให้บริการหลังหยุดไปนานเกือบ 1 เดือน จากมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งร้านเสริมสวย คลินิกทันตกรรม สถานกายภาพบำบัด และร้านสัก แต่ร้านเหล่านี้จะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบใหม่ด้านสุขอนามัยที่ออกโดยรัฐบาลเดนมาร์กอย่างเคร่งคัด เพื่อป้องกันการระบาดของ COVID-19 ขณะที่โรงเรียนและศูนย์ดูแลเด็กหลายแห่งทั่วเดนมาร์กเริ่มกลับมาเปิดเช่นกัน
ส่วนเยอรมนีก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอนุญาตให้ร้านค้าขนาดเล็กและธุริกจบางประเภทกลับมาเปิดบริการ หลังปิดไปนานหลายสัปดาห์แต่ยังคงมาตรการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งคัด
ที่ประเทศออสเตรเลีย ชายหาด 3 แห่งในนครซิดนีย์ ได้แก่ชายหาดคูกี ชายหาดมาโรบรา และชายหาดโคลเวลลี กลับมาเปิดให้ประชาชนเข้ามาพักผ่อนรับลมทะเลและทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งการออกกำลังกาย หลังต้องปิดไปจากการระบาดของ COVID-19 แต่ชายหาดบอนได ซึ่งเป็นชายหาดยอดนิยมของนครซิดนีย์ ยังคงปิดต่อไป
ขณะที่ในกรุงโซลเมืองหลวงของเกาหลีใต้ประชาชนเริ่มกลับมาทำงานกันมากขึ้น หลังมีการผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทที่ยุติหรือผ่อนคลายนโยบายทำงานจากที่บ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่หลายบริษัทยังคงยืดหยุ่นเวลาทำงานรวมทั้งจำกัดการเดินทางและการประชุมแบบกลุ่ม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ขยายนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคมออกไปอีก 16 วัน แต่เสนอให้มีการผ่อนคลายกับสถานที่ทางศาสนาและกีฬา ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดอย่างเข้มงวด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัฟกานิสถานเปลี่ยน "วัง" เป็นโรงพยาบาลรองรับผู้ป่วย COVD-19