วันนี้ (23 เม.ย.2563) นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยกับไทยพีบีเอส ยืนยันมาตรการจังหวัดชลบุรี ยังไม่พิจารณาปลดล็อกทั้งจังหวัด และวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) จะประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี เพื่อรับฟังสถานการณ์ COVID-19 ร่วมกับฝ่ายเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ภาพรวมในจ.ชลบุรี ว่าจะปลดล็อกหรือผ่อนคลายมาตรการใดๆต้องดู 3 สถานการณ์ประกอบ คือ 1. ผู้ติดเชื้อในจ.ชลบุรี 2.จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศ ไทย และ 3. สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก เนื่องจากชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาในแต่ละปีจำนวนมาก
โดยเฉพาะพัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก หากสถานการณ์ในจังหวัดดี แต่สถานการณ์หลายประเทศยังมีผู้ติดเชื้อ ก็จำเป็นที่จะต้องพิจารณาประเด็นนี้ร่วมด้วย
นัดถกมาตรการพรุ่งนี้ (24 เม.ย.)รองรับหลัง 30 เม.ย.
สำหรับภาพรวม จ.ชลบุรี ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวม 86 คน แต่ถ้าดูเฉพาะพื้นที่พัทยาจะพบว่า มีผู้ติดเชื้อ 31 คน และในจำนวนนี้ ผู้ติดเชื้อ COVID-19 เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 16 คน มากกว่าผู้ติดเชื้อคนไทย และที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิต 2 คน ก็เป็นคนต่างชาติชาวรัสเซียและฝรั่งเศส ดังนั้นสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศต่างๆ จึงเป็นประเด็นสำคัญ ที่จ.ชลบุรี และคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัดชลบุรี จะพิจารณาร่วมด้วย
สำหรับวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) จะเชิญตัวแทนผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ทุกกลุ่มมาหารือเพื่อกำหนดแนวทางเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่จะออกมาหลังจากวันที่ 30 เม.ย.63 ซึ่งแนวโน้มก็ยังจำเป็นต้องพิจารณาสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในช่วงนั้นด้วย รวมถึงข้อเสนอของเมืองพัทยา ที่ทางเมืองพัทยาได้ประชุมร่วมกันไปแล้วเมื่อวานนี้ รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือประชาชน และ ผู้ประกอบการในระยะยาวหากสถานการณ์ของจังหวัดชลบุรียืดเยื้อ ยังไม่สามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้รวมถึงต้องพิจารณาประเด็นที่จ.ชลบุรี อยู่ในกลุ่ม 7 จังหวัดของกลุ่มสุดท้ายที่อาจผ่อนปรนมาตรการในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข เสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ด้วย
"สนธยา"เร่งเยียวยาผลกระทบทุกกลุ่ม
นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้จะนำความเห็นของผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ที่เมืองพัทยาได้ประชุมร่วมกันไปแล้วเมื่อวานนี้ เสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่จะประชุมร่วมกันวันพรุ่งนี้ โดยที่ประชุมเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) มีทั้งผู้ประกอบการโรงแรม, การท่องเที่ยว, ร้านอาหาร, กลุ่มธุรกิจผับ,บาร์, กลุ่มประกอบกิจการตามชายหาด ข้อเสนอของผู้ประกอบการมีหลากหลาย ทั้งการขอให้ผ่อนคลายกิจการประเภทร้านอาหาร, ร้านตัดผมก่อน
ส่วนร้านบาร์เบียร์ หรือ การประกอบกิจการตามแนวชายหาด ยังไม่สามารถผ่อนคลายได้ในเร็วๆ นี้ เพราะจะเป็นจุดรวมตัวของผู้คนที่ทำให้เกิดการสังสรรค์กัน แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัดชลบุรีพิจารณา
นายสนธยา กล่าวอีกว่า สถานการณ์ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาแน่นอน เพราะแต่ละปีมีรายได้กว่า 2 แสนล้าน มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละ 20 ล้านคน มีรายได้มากเป็นอันดับหนึ่งของรายได้ภาคการท่องเที่ยวของชลบุรี
สถานการณ์ซบเซาตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว จนถึงขณะนี้ผ่านไปเกือบ 4 เดือนแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้ออกมาตรการหลายเรื่องเพื่อบรรเทาผลกระทบทั้งผู้ประกอบการและกลุ่มแรงงาน รวมถึงการตั้งศูนย์ช่วยคนเร่ร่อน ตกงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจจำนวนที่แน่ชัด เนื่องจากพัทยามีประชากรหลัก ประมาณ 120,000 คน แต่มีประชากรแฝง ประมาณ กว่า 200,000 คน
