วันนี้ (26 เม.ย.2563) ไทยพีบีเอสลงพื้นที่สำรวจบริเวณสวนลุมพินี และสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ก่อนหน้านี้เคยเป็นจุดศูนย์รวมของคนไร้บ้าน และสถานที่เฝ้ารอการแจกสิ่งของในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19)
ปัจจุบันถูกนำรั้วมาปิดกั้นพื้นที่ และติดป้ายแจ้งให้ไปรับบริจาคสิ่งของที่ลานกีฬาจารุเมือง ใต้ทางด่วนถนนพระราม 1 เพื่อความเป็นระเบียบเรียบ ร้อย ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่ตามจุดที่เจ้าหน้าที่ระบุไว้ พบมีคนที่อยู่ในชุมชนโดยรอบ และในพื้นที่เขตปทุมวัน มารอรับแจกอาหารอยู่จำนวนมาก
ขณะเดียวกันก็มีผู้บริจาค ทยอยนำอาหาร และน้ำดื่ม มาวางไว้ตามโต๊ะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตปทุมวันจัดไว้ให้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งบริเวณนี้จะเปิดแจกจ่ายสิ่งของตั้งแต่เวลา 09.00 น. ไปจนถึงช่วงเย็น
ทีมข่าวได้พบกับครอบครัวหนึ่งที่พาลูกสาวมารับของบริจาคด้วย เธอบอกว่า ตอนนี้มีรายได้วันละ 200 บาท แต่ก็ไม่มีทุกวันเนื่องจากร้านอาหารที่ทำงานอยู่ต้องแบ่งกันทำงานกับลูกจ้างคนอื่น ส่วนสามีของเธอตกงาน แต่ยังต้องมีรายจ่ายกับลูกและคนในครอบครัวรวม 4 คน และได้เช่าบ้านอยู่ย่านถนนสีลม เดือนละ 4,500 บาท
ตอนนี้ไม่ได้ส่งเงินกลับไปที่บ้านเลย เพราะต้องเก็บไว้ใช้จ่ายและเลี้ยงลูก จะต้องให้ลูกกินก่อนตัวเองไม่เป็นไร ไม่กินก็ได้
ช่วงนี้ไปซื้อของก็เก็บไว้ให้แต่ลูก ซื้อนม หรือขนม และก็มารับของบริจาคเอาไว้กิน อย่างวันนี้หากได้ขนมไว้ให้ลูกกินก็ไม่ต้องไปซื้อ
ส่วนผู้หญิงอีกคนที่ทำงานในร้านอาหารเดียวกันก็ได้รับผลกระทบ จากเดิมที่ได้ค่าจ้างวันละ 350 บาท ตอนนี้ได้วันละ 200 บาท แต่ก็ไม่ได้ทุกวันเนื่องจากต้องสลับกันทำงานกับคนอื่นๆ และเจ้าของร้านมีรายได้ลดลงประกอบกับต้องลงทุนในแต่ละวัน ตอนนี้ก็เริ่มได้รับความลำบากแล้ว เพราะสามีตกงาน แต่รายจ่ายค่าเช่าห้องเดือนละ 5,000 บาท ก็ยังไม่มีเงินจ่ายในสิ้นเดือนนี้
ไทยพีบีเอส ยังได้พูดคุยกับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์คนหนึ่ง ที่มีกำหนดคลอดในเดือนพ.ค.นี้นี้แล้ว เธอเป็นคนสัญชาติลาว ต้องเตรียมเงินไว้เป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท และจะต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเอง เนื่องจากไม่ได้รับสวัสดิการในไทย ขณะนี้สามีของเธอก็ตกงานเช่นกัน ส่วนเธอก็ไปทำงานได้ไม่เต็มที่
เธอบอกว่า ปกติสามีจะมีเงินเดือน 12,000 บาท ส่วนตัวเอง 10,000 บาท ตอนนี้หายไปครึ่งหนึ่ง ก็ต้องเก็บไว้ใช้จ่าย ค่ากิน ค่าไปหาหมอ และค่าเช่าบ้าน ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะพอจ่ายไหม แต่เหมือนว่าทางเจ้าของห้องเช่าก็จะลดค่าเช่าให้กับคนที่ตกงาน
ผู้ใจบุญมีกำลังทรัพย์-ส่งถึงคนได้รับผลกระทบ
นอกจากจะมีคนมารับบริจาคสิ่งของแล้ว ยังมีคนที่นำสิ่งของทั้งอาหาร น้ำดื่มมาบริจาคที่นี่เกือบตลอดทั้งวัน น.ส.สุวรรณี ทั่งพิทักษ์ไพศาล เจ้าของธุรกิจแห่งหนึ่ง ได้ติดตามข่าวและก็เห็นว่ามีคนที่เดือดร้อนรอคอยอยู่ที่สวนลุมพินี จึงตั้งใจนำเงินจำนวน 40,000 บาท จะมาเฉลี่ยช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน แต่เจ้าหน้าที่ให้มาติดต่อที่บริเวณนี้จึงนำเงินมาบริจาคให้ถึงมือผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ
ต้องการช่วยเหลือเท่าที่เราจะช่วยได้ เห็นพวกเขาลำบากในช่วงนี้เราคนไทยด้วยกันก็ต้องช่วยกัน แต่เห็นว่ามีคนนำมาอาหารมาบริจาคกันเยอะแล้ว จึงอยากให้เงินสดกับผู้ที่เดือดร้อนเก็บไว้ซื้ออาหารรับประทาน หรือใช้เป็นค่ารถไว้กลับบ้านเมื่อระบบการขนส่งได้เปิดให้บริการแล้ว
ธุรกิจกระทบ-แต่ตั้งใจช่วยคนที่เดือดร้อน
ส่วนครอบครัวของคุณขนิษฐา ตันตระกูล ได้ซื้อข้าวขาหมู 100 กล่อง และข้าวไข่เจียว 50 กล่อง มาบริจาคให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ เธอบอกว่ามาเป็นครั้งแรก เมื่อเห็นภาพที่ของบริจาคถึงมือผู้รับก็รู้สึกปลาบปลื้มใจ แม้ว่าตัวเองกำลังจะได้รับผลกระทบด้านธุรกิจกับเหตุการณ์นี้
รู้สึกปลาบปลื้มใจที่เห็นของบริจาคถึงมือผู้รับ และสะท้อนใจเห็นคนเดือดร้อน แต่ก็อยากช่วยเหลือ และจะมาอีกอาทิตย์ละครั้ง
ส่วนตัวทำธุรกิจเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ ตอนนี้ก็เริ่มได้รับผลกระทบแล้วจะมีแต่ลูกค้าประจำที่เข้ามา เพราะตอนนี้รถยนต์ก็ไม่ค่อยได้วิ่งเท่าไร
เธอเล่าทั้งน้ำตาว่าตอนนี้คงยังไม่ถึงคิวเรา แต่ก็คงอีกไม่นานหากยังเป็นอยู่อย่างนี้ก็เชื่อว่าจะกระทบต่อธุรกิจ แต่ตอนนี้ก็ยังถือว่าได้อยู่
กทม.จัดจุดรับบริจาค
ขณะนี้กรุงเทพมหานคร ได้ให้แต่ละสำนักงานเขตจัดจุดรับบริจาคสิ่งของให้เป็นจุดเดียว เพื่อที่จะง่ายต่อการบริหารจัดการ รวมทั้งให้แต่ละสำนักงานเขต ตรวจสอบบุคคลในชุมชนที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งคนไร้บ้านให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ส่วนผู้ที่จะบริจาคก็สามารถติดต่อแต่ละสำนักงานเขตถึงจุดที่บริจาคสิ่งของเพื่อจะได้เช่นกัน
ส่วนที่สำนักงานเขตปทุมวันจัดสถานที่ไว้คือลานกีฬาจารุเมือง ใต้ทางด่วน ถ.พระราม 1 ติดต่อผู้ประสานงานได้ที่หมายเลข 089-174-5757 (คุณศวัลย์) 089-124-7922 (คุณมาณพ) 086-367-7916 (คุณปณณพร)
