กองปราบจับหญิง วัย 44 ปี อ้างพาไปทำงานต่างประเทศได้

อาชญากรรม
27 เม.ย. 63
16:54
1,310
Logo Thai PBS
กองปราบจับหญิง วัย 44 ปี อ้างพาไปทำงานต่างประเทศได้
กองปราบจับหญิงวัย 44 ปี อ้างพาคนไปทำงานต่างประเทศได้ พบก่อเหตุในหลายพื้นที่ นำตัวส่งดำเนินคดี สภ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี

วันนี้ (27 เม.ย.63) กองบังคับการปราบปราม จับ น.ส.สมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 270/2562 ลง 7 พ.ย.62 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกง และหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง” โดยควบคุมตัวได้ที่ริมถนนวัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุม น.ส.สมชาย เนื่องจากมีพฤติการณ์หลอกลวงพาคนไปทำงานต่างประเทศ จากการสืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้จะหลบหนีการติดตามจับกุม โดยพักอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง มีการเช่าเปิดห้องพัก อีกทั้งผู้ต้องหารายนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์อยู่ตลอด เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่า น.ส.สมชาย แอบมาเปิดเช่าห้องพักที่คอนโดแห่งหนึ่ง จึงได้วางแผนโดยวางกำลังดักซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว เมื่อพบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและแสดงหมายจับเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนที่ สภ.กู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาให้การว่า เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงประมาณ 80 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 5-6 ล้านบาท และเนื่องจากตนเองเคยไปทำงานต่างประเทศมาก่อน หลังกลับมาจึงยึดอาชีพแนะนำหาคนงาน ส่งไปต่างประเทศ สวีเดน เดนมาร์ก เกาหลี อังกฤษ โดยแนะนำให้ติดต่อมาที่ตนเอง เมื่อมีผู้หลงเชื่อก็จะให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง 50,000 บาท เพื่อจะนำไปใช้ในการทำ work permit และ visa ในการไปทำงาน แต่เมื่อได้เงินแล้ว ผู้ต้องหาไม่สามารถออกใบอนุญาตทำงานให้ผู้เสียหายได้ และไม่ยอมคืนเงินให้ เมื่อถูกทวงถามก็จะบ่ายเบี่ยง ปัดเลื่อน อ้างว่ายังไม่ได้เงินคืนจากบุคคลที่ตัวเองนำไปให้เขาดำเนินการ จากนั้นก็จะหลบหนีโดยการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์และเปลี่ยนที่อยู่ใหม่

จากพฤติการณ์การกระทำของผู้ต้องหารายนี้ พบว่า มีผู้เสียหายในหลายจังหวัดเช่น จ.เชียงใหม่ จ.นครสวรรค์ จ.กำแพงเพชร จ.หนองคาย จ.อุดรธานี จ.บุรีรัมย์ จ.สุรินทร์ ที่ตกเป็นเหยื่อ โดยหลังจากที่มีการขออนุมัติออกหมายจับแล้ว พบว่ามีผู้เสียหายที่ทราบข่าวการถูกจับกุม ได้เดินทางมาร้องทุกข์เพิ่มเติมจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบมีหมายจับติดตัวอีกหลายคดี ดังนี้

พ.ศ.2562 ก่อเหตุที่ สภ.ลำปลายมาศ ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.22/2563 ลง 20 ก.พ.63 ข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และฉ้อโกง” (ต้องการตัว)

พ.ศ.2562 ก่อเหตุที่ สภ.ลำปลายมาศ ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ จ.23/2563 ลง 20 ก.พ.63 ข้อหา “หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง และฉ้อโกง” (ต้องการตัว)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง