ป.ป.ช.เดินหน้าสอบปมจัดซื้อชุดดูแลสุขภาพ อบจ.ลำพูน

การเมือง
29 เม.ย. 63
14:11
589
Logo Thai PBS
ป.ป.ช.เดินหน้าสอบปมจัดซื้อชุดดูแลสุขภาพ อบจ.ลำพูน
เลขาฯ ป.ป.ช. ระบุ ตั้งคกก.เร่งตรวจสอบการจัดซื้อชุดดูแลสุขภาพ อบจ.ลำพูน ใน 90 วัน พร้อมยอมรับมีกรณีให้ตรวจสอบอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน

วันนี้ (29 เม.ย.2563) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการจัดซื้อ ชุดดูแลสุขภาพให้กับประชาชน ในช่วงการระบาด COVID-19 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ว่า ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่ามีมูล ให้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จริง จึงให้ ป.ป.ช.ภาค 5 และสำนักงาน ป.ป.ช.ลำพูน ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร้อง ป.ป.ช.สอบ อบจ.ลำพูน จัดซื้อ “ถุงซิปล็อก” ผู้สูงอายุ

เรื่องนี้เป็นกรณีที่สังคมให้ความสนใจ จึงต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบให้ได้ความชัดเจนภายใน 90 วัน ขณะเดียวกันก็มีกรณีการจัดซื้อใกล้เคียงกับจ.ลำพูน ในช่วง COVID-19 อีกหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนการตรวจสอบกรณีการถือครองที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลอะไรได้มากนัก แต่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยในเร็วๆนี้ ก็จะมีการเชิญให้ น.ส.ปารีณา มาให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. เพราะมีประเด็นเพิ่มเติมที่จะสอบถาม

เลขาธิการ ป.ป.ช.ยังเปิดเผยถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ในช่วงการระบาด COVID-19 ว่า ทาง ป.ป.ช.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแนวทางการป้องกันการทุจริตในสถานการณ์วิกฤติ โครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต ท่ามกลางวิกฤตสถานการณ์ COVID-19 โดยการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากหน่วยงาน และภาคประชาชน รวมถึงข่าวสารต่างๆ เพื่อกำหนดพื้นที่ ที่อาจมีการทุจริต นำไปสู่การตรวจสอบในทุกพื้นที่

ป.ป.ช.แบ่งการตรวจสอบโครงการต่างๆ ที่เน้นการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างที่แพงเกินจริง การนำเงิน และสิ่งของบริจาคมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ เสมือนจัดซื้อจัดจ้าง ทุจริตการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยง เบียดบังทรัพย์สินข้าราชการ เอื้อประโยชน์การดูแลประชาชนไม่เท่าเทียม หรือการทุจริตเกี่ยวกับการดูแลสวัสดิการประชาชน หรือฉวยโอกาสเร่งรัดจัดซื้อจัดจ้างด้านอื่น อย่างไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้ นายวรวิทย์ยังกล่าวถึงกรณีที่มี รายชื่อ 1 ใน 14 คนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นในการคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด ว่า อยากทำงานที่คิดว่าตรงกับความรู้ความสามารถที่มี จึงคิดที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อีกทางหนึ่ง โดยได้ใช้โอกาสนี้ไปสมัคร ซึ่งคงมีกระบวนการพิจารณาอีกหลายขั้นตอน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง