ตันสรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีแถลงภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ภาคธุรกิจเกือบทั้งหมดจะได้รับอนุญาตให้เปิดทำงานอีกครั้งภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด การทำธุรกิจและทำงานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการใช้มาตรการจำกัดเสรีภาพการใช้ชีวิตนอกบ้าน (MCO) ยาวนานเกินไป ประชาชนก็ไม่มีรายได้และจะส่งผลกระทบต่อการเงินและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย บอกว่า ภาคเศรษฐกิจที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
แต่ละวันที่ใช้มาตรการ MCO ประเทศได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจวันละ 2.4 พันล้านริงกิต (เกือบ 2 หมื่นล้านบาท) ตั้งแต่เริ่มใช้มาตรการ MCO เมื่อวันที่ 18 มีนาคม มาเลเซียได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจประมาณ 63 พันล้านริงกิต (ประมาณ 5 แสนล้านบาท)
การตัดสินใจเปิดให้ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ในมาเลเซีย เริ่มเปิดบริการในวันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม เกิดขึ้นภายหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้นในจำนวนที่ต่ำกว่า 100 คนติดต่อกัน 16 วัน (ถึงวันที่ 30 เมษายน) และเป็นที่น่าสังเกตว่าการผ่อนคลายให้ภาคธุรกิจเริ่มเปิดบริการ เป็นการผ่อนคลายในระหว่างที่มาตรการ MCO ยังมีผลบังคับใช้ (ครบกำหนดวันที่ 12 พฤษภาคม) และเป็นครั้งแรกที่ตันสรี มูห์ยิดดิน แสดงความกังวลต่อผลกระทบของมาตรการ MCO ต่อระบบเศรษฐกิจมาเลเซีย ซึ่งเสียหายไปแล้วประมาณ 500,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (28 เม.ย.63) ดร.นูร์ ฮิชัม อับดุลเลาะห์ แถลงว่า มาเลเซียอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากโควิด-19 คือในแต่ละวันมีผู้ป่วยได้รับการรักษาหายดี มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่