วันที่ 3 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นำคณะร่วมกับ สำนักงานเขตจตุจักร, สน.พหลโยธิน, ม.ราชภัฏจันทรเกษม, สมาคมการค้าผู้ประกอบการค้าของเก่าไทย, สมาคมการค้าประกอบการรีไซเคิลไทย, สมาคมอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษไทย มอบเงินทุนและชุดยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง แก่ผู้ขับรถซาเล้งและปิคอัพประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า
หลังจากแต่ละครอบครัวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 โดยมีชาวชุมชนซาเล้งซอยเสือใหญ่ ถ.รัชดาภิเษก และชุมชนใกล้เคียงในกรุงเทพมหานคร กว่า 500 ครัวเรือนมารับมอบชุดยังชีพและเงินช่วยเหลือคนละ 500 บาท ณ อาคารสนามกีฬาในร่ม มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
หนึ่งในผู้ประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า บอกถึงผลกระทบว่ากลุ่มซาเล้งที่มีจำนวนมาก ต่างตระเวนหาซื้อกระดาษและขวดพลาสติกในช่วงนี้แทบไม่มีใครนำมาขาย เพราะต่างกลัวโรคระบาด รายได้จึงลดลงอย่างมาก อีกทั้งอยากเข้าถึงสิทธิเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท บางคนเคยลงทะเบียนแต่ไม่ผ่าน จึงอยากให้ภาครัฐพิจารณา
รมว.พาณิชย์กล่าวว่า กรณีตัวแทนชาวอาชีพซาเล้งอยากได้สิทธิ์ 5,000 บาท ที่ต้องขึ้นทะเบียนออนไลน์นั้น จะลองหารือกับรัฐบาลดูว่าเข้าข่ายอาชีพอิสระ ที่สามารถจะได้รับเงินเยียวยาด้วยหรือไม่ หากเข้าข่ายจะช่วยเจรจาให้
ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ร่วมหารือกับ 4 ฝ่ายได้แก่ ซาเล้ง ร้านรับซื้อของเก่า โรงอัดกระดาษ และโรงผลิตกระดาษ เพื่อแก้ไขปัญหาการรับซื้อเศษกระดาษตกต่ำ เฉลี่ยซื้อ-ขายกิโลกรัมละ 50 สตางค์ถึง 1 บาท หลังช่วยเหลือได้ปรับราคาขึ้นแล้วไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 2 บาท ซึ่งเป็นที่พอใจของผู้ค้าของเก่า เป็นการสนับสนุนให้กลุ่มอาชีพนี้มีรายได้ที่ดีขึ้น
แต่เมื่อมีสถานการณ์ COVID-19 ต่างจึงประสบปัญหากันอีกครั้ง จึงได้ร่วมมือกันกับหลายภาคส่วน จัดทำโครงการ "ต่อลมหายใจซาเล็ง"เพื่อเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น อย่างไรก็ตามจะร่วมมือกับทางสมาคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายการช่วยเหลือไปยังพี่น้องผู้ประกอบอาชีพรับซื้อของเก่าทั่วประเทศ โดยพบว่ามีไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคน
