ผู้ประกันตนยื่นขอรับเงินว่างงานสุดวิสัย 1.2 ล้านคน

สังคม
5 พ.ค. 63
07:54
6,621
Logo Thai PBS
ผู้ประกันตนยื่นขอรับเงินว่างงานสุดวิสัย 1.2 ล้านคน
สำนักงานประกันสังคม ยืนยันเงินกองทุนยังอยู่ครบ พร้อมจ่ายสิทธิประโยชน์ว่างงานกรณีเหตุสุดวิสัยจาก COVID-19 เผยมีผู้ประกันตนยื่นเรื่องแล้ว 1.2 ล้านคน คาดว่าใช้เงินประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท

เมื่อวานนี้ (4 พ.ค.2563) นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า กองทุนว่างงานปัจจุบันมีเงินอยู่จำนวนกว่า 160,000 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงพอต่อการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ประมาณการเบื้องต้น พบว่าจากจำนวนผู้มาขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน 1.2 ล้านคน คาดว่าจะคิดเป็นเงินทั้งหมดจำนวน 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานฯ มีเงินกองทุนเพียงพอ ที่จะนำไปจ่ายสิทธิประโยชน์ดังกล่าว โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้เตรียมสำรองสภาพคล่องไว้รอการจ่ายเงินแล้ว ขอให้ผู้ประกันตนวางใจว่ากองทุนมีเงินกองทุนเพียงพอ นอกจากนี้ เงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท ยังอยู่ครบถ้วน มิได้หายไปไหน

สั่งจ่ายเงิน "ว่างงานสุดวิสัย" แล้วกว่า 4.26 แสนคน

ส่วนประเด็นกรณีการจ่ายเงินช่วยเหลือจากประกันสังคมที่ล่าช้า ในเรื่องนี้กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการนำเรื่องการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยให้ขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนจากภัยอันเกิดจากโรคที่แพร่หรือระบาดในมนุษย์ (COVID-19)

โดยกฎหมายได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2563 เวลา 18.30 น. ซึ่งสำนักงานประกันสังคมเริ่มทยอยจ่ายเงินกรณีว่างงาน ให้ผู้ประกันตนกลุ่มแรก เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2563 จนกระทั่งปัจจุบันสรุปข้อมูล ณ วันที่ 3 พ.ค.2563 มีจำนวนผู้ประกันตนมายื่นขอใช้สิทธิจำนวน 1,177,841 คน ได้สั่งจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนไปแล้วทั้งสิ้น 426,358 คน อยู่ระหว่างดำเนินการ 243,974 คน และอยู่ระหว่างติดตามนายจ้างจำนวนกว่า 50,000 สถานประกอบการให้เข้ามารับรองสิทธิลูกจ้างจำนวน 507,509 คน

เร่งประสานนายจ้างกว่า 50,000 รายรับรองหยุดงาน

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2563 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของทุกส่วนราชการของกระทรวงแรงงาน เร่งระดมประสานงานติดตามนายจ้างจำนวนกว่า 50,000 ราย ให้เข้ามารับรองการหยุดงาน รวมทั้งสำนักงานประกันสังคมจะได้ออกหนังสือแจ้งนายจ้างให้เข้ามารับรองการหยุดงานของลูกจ้างกลุ่มดังกล่าว เพื่อไม่ให้ลูกจ้างเสียสิทธิ์ จากการติดตามพบว่ามีประมาณร้อยละ 20 เป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการปกติและจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ประมาณการลูกจ้างจำนวนกว่า 100,000 คน

นอกจากนี้ มีประมาณร้อยละ 10 เป็นสถานประกอบการที่จ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามมาตรา 75 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ประมาณการลูกจ้างจำนวนกว่า 200,000 คน และคงเหลือจำนวนลูกจ้างที่คาดว่าจะมีคุณสมบัติครบถ้วน ซึ่งสำนักงานประกันสังคมกำลังเร่งให้นายจ้างดำเนินการรับรอง สั่งจ่ายในกลุ่มนี้อีกกว่า 200,000 คน

การรับเงิน "ว่างงานสุดวิสัย" ต้องเข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไข

ทั้งนี้ ขอเรียนชี้แจงแก่ลูกจ้างผู้ประกันตนว่าการรับเงินว่างงานกรณีเหตุสุดวิสัยนั้น จะต้องเป็นกรณีที่นายจ้างหยุดประกอบกิจการชั่วคราวและไม่จ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ประกอบกับลูกจ้างนั้น จะต้องจ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไขในการขอรับสิทธิ์ประโยชน์กรณีว่างงานคือมีการนำส่งเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนย้อนหลัง

สำนักงานประกันสังคม มีกรอบในการปฏิบัติงานภายใต้พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงต้องขออภัยหากการดำเนินการจะไม่สามารถเป็นไปตามที่นักวิชาการหรือผู้มีความเห็นต่าง ๆ ได้แนะนำภายในระยะเวลาอันรวดเร็วภายใต้วิกฤต COVID-19 เช่นนี้ อย่างไรก็ดี สำนักงานประกันสังคมขอน้อมรับที่จะนำไปปรับปรุงข้อกฎหมายต่างๆ ที่ได้มีความเห็นเสนอมา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง