สหรัฐฯ เปิดไฟเขียวกระจาย "ยาเรมดิซิเวียร์"

ต่างประเทศ
10 พ.ค. 63
14:17
303
Logo Thai PBS
สหรัฐฯ เปิดไฟเขียวกระจาย "ยาเรมดิซิเวียร์"
เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 คน ต้องกักตัวเองเพื่อสังเกตอาการ หลังพบปะติดต่อกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ขณะที่มีรายงานว่า ทางการสหรัฐฯ เปิดไฟเขียวให้หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐต่างๆ กระจายยาเรมดิซิเวียร์ให้กับโรงพยาบาลเพื่อรักษาผู้ป่วย COVID-19

วันนี้ (10 พ.ค.2563) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯ อนุญาตให้หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐต่างๆ เป็นผู้กระจายยาเรมดิซิเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่คิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท กิลเลียด ไซแอนเซส เพื่อใช้ในการต่อสู้กับ COVID-19 หลังผลการทดสอบทางคลินิกล่าสุดแสดงให้เห็นว่ายาเรมดิซิเวียร์ช่วยให้ผู้ป่วย COVID-19 ฟื้นตัวและหายป่วยเร็วขึ้นกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก

บริษัท กิลเลียด ให้คำมั่นในก่อนหน้านี้ว่าจะผลิตยาเรมดิซิเวียร์ เพื่อกระจายในสหรัฐฯ ให้ได้ 607,000 โดสในอีก 6 สัปดาห์ และหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐต่างๆ จะเป็นผู้กระจายยาไปให้กับโรงพยาบาลที่เหมาะสมในรัฐ ขณะที่กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าตั้งเป้าตัวเลขยาเรมดิซิเวียร์ที่จะกระจายไปทั่วโลกอยู่ที่ 1,500,000 โดส ในจำนวนนี้ 607,000 โดส จะกระจายผ่านทางหน่วยงานของกระทรวง

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือเอฟดีเอ ใช้อำนาจตามมาตรการฉุกเฉินอนุมัติ ให้ใช้ยาเรมดิซิเวียร์รักษาผู้ป่วย COVID-19 ได้ เปิดทางให้มีการใช้ยาเรมดิซิเวียร์รักษาผู้ป่วย COVID-19 ในโรงพยาบาลในสหรัฐฯ ได้กว้างมากขึ้น การเปิดไฟเขียวให้รัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ ใช้ยาเรมดิซิเวียร์รักษาผู้ป่วย COVID-19 มีขึ้นในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกพุ่งสูงกว่า 3,960,000 คน และเสียชีวิต 273,974 คน

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ติดเชื้อต้องกักตัวเอง 14 วัน

นอกจากนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ 2 คน ได้แก่ นายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี และสตีเฟ่น ฮาห์น กรรมาธิการองค์การอาหารและยา ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อสังเกตอาการ หลังพบปะติดต่อกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในทำเนียบขาว

ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายแอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจักรสำคัญในคณะทำงานต่อสู้ COVID-19 ของทำเนียบขาว ต้องกักตัว เพื่อสังเกตอาการเช่นกัน หลังมีความเป็นไปได้ว่าอาจสัมผัสผู้ติดเชื้อเช่นกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง