วันนี้ (15 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะนักวิจัยจากนอร์ทเวลล์ เฮลท์ หน่วยงานให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลการศึกษาข้อมูลทางการแพทย์ของคนไข้ที่เข้ารับการรักษา COVID-19 ที่โรงพยาบาลในนิวยอร์ก ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. - 5 เม.ย. จำนวน 5,449 คน พบว่าร้อยละ 36.6 มีภาวะไตวายเฉียบพลัน ในจำนวนนี้ต้องเข้ารับการฟอกไตร้อยละ 14
รายงานฉบับนี้ยังระบุด้วยว่า อาการไตวายพบได้ในช่วงระยะแรก โดยคนไข้ร้อยละ 37.3 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการไตวาย หรือมีอาการดังกล่าวในช่วง 24 ชั่วโมงแรกที่เข้ารับการรักษา ขณะที่อีกหลายกรณีอาการนี้เกิดขึ้นในช่วงที่คนไข้อาการหนักและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้คณะนักวิจัยเชื่อว่า ภาวะไตวายน่าจะเกี่ยวข้องกับอาการป่วยรุนแรงของคนไข้
รายงานดังกล่าว ซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์คิดนีย์ อินเตอร์เนชันแนล ถือเป็นผลการศึกษาวิจัยอาการป่วยของคนไข้ COVID-19 ที่เกิดขึ้นกับไต ที่มีการศึกษาข้อมูลมากที่สุดในปัจจุบัน
เฝ้าระวังอาการป่วยในเด็กโยง COVID-19
ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา ออกคำเตือนให้หน่วยงานทางการแพทย์ที่รักษาผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี ควรต้องรายงานต่อหน่วยงานสาธารณสุข ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับรัฐ ไปจนถึงเขต หากพบว่าคนไข้มีอาการเข้าข่ายกลุ่มอาการอักเสบของหลายอวัยวะในเด็ก
นอกจากนี้ยังระบุให้แพทย์ต้องพิจารณาถึงกลุ่มอาการนี้ หากพบคนไข้เด็กเสียชีวิตและมีหลักฐานบ่งชี้ว่าติดเชื้อ COVID-19 แม้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่ากลุ่มอาการดังกล่าวจำกัดอยู่แค่ในกลุ่มอายุเด็กหรือไม่ก็ตาม
ก่อนหน้านี้ รัฐนิวยอร์กพบเด็กที่เจ็บป่วยด้วยการอักเสบของอวัยะหลายระบบทั่วร่างกาย คล้ายกับที่พบในโรคคาวาซากิ 102 คน ซึ่งในจำนวนนี้ เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 3 คน ขณะที่มีการรายงานเกี่ยวกับกลุ่มอาการนี้ที่เชื่อว่าอาจเชื่อมโยงกับ COVID-19 เป็นครั้งแรกในอังกฤษ เมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นิวยอร์กเฝ้าระวังเด็กป่วยคล้าย "โรคคาวาซากิ" 102 คน
ทั่วโลกเสียชีวิต COVID-19 แตะ 3 แสนคน
นักวิจัยจีนพัฒนา "AI สร้างภาพปอด" ฉายรอยโรค COVID-19