สหภาพครูในยุโรปกังวล "เปิดโรงเรียน" ชี้ยังไม่ปลอดภัย

แม้การเปิดโรงเรียนยังเป็นข้อถกเถียงในหลายประเทศของทวีปยุโรป แต่การประชุมของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการในอียูล่าสุดมั่นใจว่าไม่ได้ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่สหภาพครูในยุโรปมองว่าโรงเรียนยังไม่ใช่สถานที่ปลอดภัย

วันนี้ (19 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฌอง-มิเชล บลองแกร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า ได้สั่งปิดโรงเรียนที่มีรายงานการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทันที แต่ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นการแพร่ระบาดในนักเรียนหรือครู และกรณีนี้มีความเป็นได้ที่เป็นการติดเชื้อจากนอกโรงเรียน เมื่อพิจารณาจากระยะการฟักตัวของไวรัสซึ่งอยู่ที่ 14 วัน ขณะที่สัปดาห์ก่อนมีรายงานเด็กเสียชีวิตจากอาการที่เชื่อมโยงกับโรคคาวาซากิเป็นคนแรกของประเทศ

การแพร่ระบาดเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลประกาศให้นักเรียนกว่าร้อยละ 30 หรือประมาณ 150,000 คนทั่วประเทศ กลับเข้าเรียนได้ในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำประมาณ 40,000 โรงเรียน ขณะที่พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดสูงอย่างในกรุงปารีสยังคงปิดเรียนต่อไป

สหภาพครูในยุโรปกังวลแผนเปิดโรงเรียน

กรณีรายงานพบการแพร่ระบาดในโรงเรียนของฝรั่งเศสครั้งนี้ ทำให้หลายประเทศเกิดความกังวล โดยเฉพาะประเด็นความขัดแย้งระหว่างสหภาพครูและรัฐบาลอังกฤษ เกี่ยวกับแผนการเปิดโรงเรียนอีกครั้งในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ เนื่องจากสหภาพครูมองว่า โรงเรียนยังไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยและแผนของรัฐบาลไม่น่าเชื่อถือ

ส่วนสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ยังคงปิดโรงเรียนต่อไป ขณะที่เยอรมนียังไม่มีรายงานการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่เชื่อมโยงกับการเปิดโรงเรียนโดยตรง หลังจากการเปิดเรียนไปแล้วบางส่วน แม้ว่าจะมีรายงานการติดเชื้อไปแล้วหลายคนก่อนหน้านี้

อียูมั่นใจเปิดโรงเรียนไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่ม

ด้านรัฐมนตรีศึกษาธิการของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งเปิดการหารือทางไกลร่วมกันวันนี้ ระบุตรงกันว่า การเปิดโรงเรียนอีกครั้งใน 22 ประเทศสหภาพยุโรป ไม่ได้ส่งผลให้พบการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นในเด็ก ครู และผู้ปกครองอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด

ส่วนโรงเรียนใน 6 ประเทศที่เปิดเรียนไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งในเดนมาร์ก นอร์เวย์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวันและอิสราเอล ก็ยังไม่พบรายงานการติดเชื้อในโรงเรียนเช่นเดียวกัน เนื่องจากประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก

โดยมาตรการเหล่านี้ประกอบไปด้วยการวางโต๊ะเรียนให้ห่างกันประมาณ 2 เมตร ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้าไปในอาคารเรียน ตรวจสอบอุณหภูมิของนักเรียนทันทีที่มาถึงโรงเรียน ฆ่าเชื้อที่มือและรองเท้าก่อนเข้าเรียน อนุญาตให้ครูเปิดการสอนกลางแจ้ง สั่งปิดสนามเด็กเล่น นอกจากนี้ยังออกกฎให้นักเรียนใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือทุกๆ ชั่วโมง มีการจัดระยะห่างโต๊ะรับประทานอาหารอย่างน้อย 1 เมตร การลดจำนวนเด็กในแต่ละห้องเรียนลงเพื่อไม่ให้แออัด รวมถึงมีการแยกเด็กทันทีที่พบว่ามีอาการไข้

ขณะที่โรงเรียนบางแห่งจัดให้เด็กกลับเข้าเรียนในแต่ละช่วงเวลาแตกต่างกันไป พร้อมทั้งจัดให้มีการพ่นฆ่าเชื้อในห้องเรียนอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ส่วนครูหรือพนักงานที่มีปัญหาสุขภาพ หรือผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่โรงเรียน