รอลุ้น! วัคซีน COVID-19 ฝีมือไทยได้ใช้ปี 64 เตรียมทดลองในลิง

สังคม
20 พ.ค. 63
11:47
2,254
Logo Thai PBS
รอลุ้น! วัคซีน COVID-19 ฝีมือไทยได้ใช้ปี 64 เตรียมทดลองในลิง
ข่าวดี! โฆษก ศบค.แถลงวันนี้ (19 พ.ค.) มีผู้ป่วย COVID-19 เพิ่ม 1 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่ทีมวิจัยไทยประสบความสำเร็จ ผลิตวัคซีนชนิด mRNA วัคซีน โดยเตรียมทดสอบในลิงสัปดาห์หน้า คาดใช้ปี 64 รวมทั้งยังเป็นแชมป์ใส่หน้ากากอนามัยของอาเซียน

วันนี้ (20 พ.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่มอีก 31 คน รวม 2,888 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 56 คน รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 90 คน

ผู้ป่วยใหม่คนนี้อยู่ใน State quarantine ในโรงแรมที่ กทม.เป็นเพศชาย อายุ 45 ปี เป็นเชฟร้านอาหาร และเดินทางกลับจากบาห์เรนถึงไทยวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 18 พ.ค.โดยไม่มีอาการป่วย

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการตรวจหาเชื้อห้องปฏิบัติการ COVID-19 ตรวจไปแล้ว 328,073 ตัวอย่าง ข้อมูลของวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา จากห้องปฏิบัติการเครือข่าย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 167 แห่งทั่วประเทศ เมื่อเทียบกับต่างประเทศจะพบว่าไทย มีจำนวนการตรวจ 4,926 คน ต่อ 1 ล้านประชากร โดยส่งตรวจ 100 คน เจอเชื้อ 0.92% ถือว่ามีตรวจมากกว่าเวียดนาม ญี่ปุ่น แต่อิตาลี สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา  

ไทยรอใช้วัคซีน COVID-19 ปีหน้า

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนข่าวดีคือ วัคซีน COVID-19 ชนิด mRNA คนไทยทำเองคาดจะได้ใช้ในปี 2564 โดยผ่านการทดสอบในหนู และเตรียมใช้กับลิงในสัปดาห์หน้า โดยวัคซีนชนิด mRNA เป็นผลงานวิจัยขของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลังประสบความสำเร็จแล้วในหนูทดลอง

ทั้งนี้นายสุวิทย เมษินทรีย์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้รายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานศบค.สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ไทยเป็นหนี่งในประเทศแรกๆ ที่มีวีคซีนใช้อย่างเพียงพอสำหรับคนไทย และประสานเตรียมผลิตวัคซีนชุดแรกกับโรงงานผลิตในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาแล้ว เพื่อนำมาทดสอบในคนตามขั้นตอนมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังระบุว่า คนไทยแชมป์ใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือในอาเซียน ซึ่งเป็นสำรวจของ YouGov ของอังกฤษ เผยผลสำรวจพฤติกรรมการป้องกันโรค ของประชาชนใน 6 ประเทศในอาเซียน คือสิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทย จากกลุ่มตัวอย่าง 12,999 คน พบว่าคนไทย มีพฤติกรรมใส่หน้ากากอนามัยบ่อยถึง 95% และใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ ถึง 89% บ่อยที่สุดในรอบ 7 วันที่ผ่านมา ส่วนสิงคโปร์มีเพียง 66%

เก็บข้อมูล 60 วันย้อนหาประวัติติดเชื้อ

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถิติการใช้แพลตฟอร์ม www.ไทยชนะ .com จำนวนร้านลงทะเบียนสะสม 67,904 แห่ง จำนวนคนใช้งาน 5,077,978 คน จำนวนการใช้งาน เช็กอินกว่า 8,584,803 ครั้ง เช็กเอ้าท์ กว่า 6,359,921 ครั้ง โดยยพบมีการเช็กอิน เช็กเอ้าท์เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ยังห่างกันอยู่

สำหรับคำถามว่าทำไมต้องสแกนคิวร์อาโค้ดหลายครั้งทั้งจากห้างสรรพสินค้า และในร้านค้าต่างๆ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กรณี หากมีคนหนึ่งคนติดเชื้อและให้ประวัติว่าไปห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น ก็อาจต้องนำคนนับหมื่นคนมาตรวจคัดกรอง แต่เมื่อมีการสแกนคิวอาร์โค้ด แล้วทำให้แทร็กกิ้งได้ว่าคนที่ติดเชื้อไปเพียง 1-2 ร้าน ก็จะช่วยลดคนที่จะเข้าตรวจคัดกรองอาจเหลือเพียงหลักสิบคนเท่านั้น คนอื่นๆ ก็จะได้ใช้ชีวิตต่อไปได้ปกติ

ส่วนคำถามว่าทำไมต้องเก็บข้อมูลคนใช้บริการแพลตฟอร์มไทยชนะถึง 60 วัน เนื่องจากอธิบดีกรมควบคุมโรคให้ชุดข้อมูลว่าได้ย้อนหลังกรณีพบการติดเชื้อในสนามมวย มีการติดจากรุ่นที่ 1 ไปรุ่นที่ 2 รุ่นที่ 3 รุ่นที่ 4 แต่ละรุ่นห่างกัน 14 วัน รวมประมาณ 2 เดือน นี่คือเหตุผลว่า ทำไมต้องเก็บไว้ 60 วัน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มนวด และกลุ่มสนามมวย ศบค.ได้หารือกันบนพื้นฐานของชุดข้อมูลโดยขอให้เตรียมความพร้อม รอการผ่อนคลายระยะต่อไป

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง