วันนี้ (20 พ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ระบุว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ก่อนเปิดภาคเรียน แต่ละโรงเรียนจะประเมินความปลอดภัยจากเชื้อ COVID-19 รวมทั้งให้เด็กและผู้ปกครองกักตัว 4 วันก่อนไปโรงเรียน เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน แต่ไม่แสดงอาการ
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า แม้โรค COVID-19 จะมีความเสี่ยงน้อยกับเด็ก แต่แพทย์ก็กังวลว่าอาจพบอาการแทรกซ้อนจากโรคอื่น จึงเป็นห่วงเด็กเล็กมากกว่าเด็กโตที่มีความรู้ความเข้าใจวิธีปฏิบัติตัวตามมาตรการ พร้อมกันนี้ยังแนะนำสถานศึกษาลดความแออัดภายในโรงเรียน เช่น ลดจำนวนนักเรียน จัดแบ่งห้องเรียนแต่ละระดับชั้น หมั่นทำความสะอาดพื้นผิว ห้องเรียนและพื้นที่ที่เด็กใช้ร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และต้องประเมินสถานการณ์รายวัน
ขณะที่ นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ได้จัดทำหลักการป้องกันโรคในโรงเรียน ครอบคลุม 4 เรื่องหลักๆ คือ การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 2 เมตร การปรับระบบระบายอากาศ การใช้อุปกรณ์ป้องกัน โดยเด็กทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน และการปรับระบบการเรียนการสอนใหม่
โดยแต่ละโรงเรียนต้องทำระบบผสมผสานระหว่างเรียนที่บ้านกับโรงเรียน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพของแต่ละโรงเรียน แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ แม้จะมีระบบคัดกรองที่ดี แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดการระบาดเงียบในกลุ่มนักเรียน และแพร่เชื้อไปสู่ครู ผู้ปกครอง คล้ายกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่
นพ.ธนรักษ์ ยังเสนอให้โรงเรียน ครู นักเรียน และชุมชน ช่วยสร้างระบบเฝ้าระวังการแพร่ระบาดแบบมีส่วนร่วม โดยย้ำว่าโรงเรียนต้องพัฒนาระบบการจัดการเรียนการสอนใหม่ เพื่อลดความแออัด รักษาระยะห่าง ตั้งแต่เข้าเรียนจนเลิกเรียน ลดจำนวนนักเรียน และลดเวลาเรียน โดยไม่ต้องมาครบ 5 วัน ขณะที่ภาคเอกชนจะต้องสนับสนุนให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพื่อให้มีเวลาอยู่กับบุตรหลาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มท.สั่งจัดโซนนิ่งพื้นที่โรงเรียนเสี่ยง COVID-19
เสียงสะท้อน "ครู-นักเรียน" หลังเรียนออนไลน์วันแรก
สุดน่ารัก "คลิปน้องนัด" ดีใจวิ่งมารับครูเยี่ยมถึงบ้าน