วันนี้ (21 พ.ค.2563) นายมนตรี วิวาห์สุข อาจารย์ประจำสาขาวิชาไทยศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยผลวิจัยการศึกษาผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ที่มีต่อวัดทั่วประเทศ ผ่านการเก็บข้อมูลแบบสอบถามออนไลน์ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 26 เม.ย.- 5 พ.ค.2563
พบว่า วัดส่วนใหญ่ในต่างจังหวัด ยังขาดอุปกรณ์ป้องกัน เช่น เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย และเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้ง อาหารและเครื่องดื่ม เพราะบางพื้นที่งดพระบิณฑบาตร และไม่มีศาสนิกชนเข้ามาทำบุญภายในวัด ขณะที่วัดบางแห่ง ที่อยู่ในพื้นที่ชายแดน ยังขาดความรู้เรื่องการป้องกันโรค COVID-19 เพราะบางพื้นที่ห่างไกล ไม่มีสื่อที่รับข้อมูลข่าวสาร
อยากให้รัฐบาลผ่อนปรน ให้วัดจัดกิจกรรมทางศาสนาได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะพื้นที่วัดที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่า เจ้าอาวาส ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่เคยมาจากการรับเงินบริจาคของผู้ใจบุญ หรือนักท่องเที่ยว ทำให้ตอนนี้ เมื่อไม่มีคนเข้ามาทำบุญ ทำให้วัดขาดรายได้ และปัจจัยอื่นๆ ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี กล่าวว่า กว่า 2 เดือนแล้ว ที่วัดต้องปิดพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ และโรงแสดงหนังใหญ่ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจากยูเนสโก เป็นแหล่งต้อนรับคณะทัวร์นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นรายได้หลักของทางวัด เฉลี่ยเดือนละเกือบ 2 แสนบาท แต่ทุกวันนี้เหลือเพียง 7-8 พันบาทเท่านั้น ขณะนี้ภาระค่าน้ำ ค่าไฟ จะอยู่ราวๆ เดือนละ 20,000 บาท ทำให้ขณะนี้ต้องใช้ทุนเดิม ที่เคยสะสมมาใช้จ่ายแทน ซึ่งไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ทีมวิจัย ได้ร่างผลสรุปภาพรวมการวิจัยผลกระทบของวัดทั่วประเทศ ให้เสร็จภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้ และเตรียมยื่นเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการมหาเถรสมาคม เพื่อพิจารณาการช่วยเหลือและมาตรการผ่อนปรนต่อศาสนกิจของวัดในบางพื้นที่ภายในสิ้นเดือนนี้